เกาหลีใต้ 4 วัน 3 คืน พักโรงแรม 5 ดาวใจกลางกรุงโซล ใกล้แหล่งอปปิ้ง “เมียงดง”

วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ – เกาหลีใต้ 20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบิน Korean Airlines (KE) โดยมีเจ้าหน้าที่ของ Variety Korea คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกผู้เดินทาง 22.45 น. นำคณะเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เที่ยวบินที่ KE652

วันที่สอง เกาหลีใต้ – เมืองแฮนัม คังจิน – โรงถ่ายตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ – เกาะนามิ – เมืองชุนชอน

– ช้อปปิ้งชุนชอน เมียงดง

06.00 น. คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้า เมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว ไกด์ท้องถิ่นที่มีความรู้และความชำนาญรอรับคณะที่สนามบิน นำคณะเดินทางสู่ เมืองยางจู สถานที่ถ่ายทำละครชื่อดัง “ ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ The Legend ” เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซีผสมผสานกับตำนาน ของเกาหลี โดยเน้นไปที่ประวัติศาสตร์ของแคว้นโคคูเรียว โดยเน้นไปที่ประวัติศาสตร์ของแคว้นโคคูเรียว มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกมาสร้างภาพในจิตนาการได้ อย่างสนุกสนานสมจริง ว่ากันว่าเทคนิคการสร้างสามารถนำ ไปใช้ในงานสร้างเป็นภาพยนตร์จอใหญ่ได้อย่างสบาย โดยทีมงานใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปี เรื่องราวเริ่มจาก โอรสแห่งสวรรค์ “ฮวานอุง” และเทพเจ้าทั้ง 3 องค์ มีชื่อว่า “อูลซา” (มังกรฟ้า) “พองแบ๊ค” (พยัคฆ์ขาว) และ “โอซา” (เต่าคะนอง) ที่ถูกส่งลงมาเพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์ แต่ได้ถูกขัดขวางจากนักบวชสาวที่เก่งกาจของเผ่าเสือ ชื่อ “คาจิน” (รับบทโดย ลีจีอา) ผู้ได้ถูกเลือกให้สืบทอดพลังอัคคี และได้รับคำสั่งให้สังหารฮวานอุง แต่โชคชะตานำพาให้ ฮวางอุงได้มาเจอกับ ธิดาแห่งเผ่าหมีชื่อ “เซอู” และเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถต้านทานอำนาจของคาจินได้ ทั้งฮวางอุง และเซอู ต่างช่วยกันต่อสู้และสามารถชนะคาจินคาจินได้ ฮวานอุง จึงได้ดึงพลังอัคคีของนางมาเก็บไว้ในลูกแก้ว และมอบพลังนี้ให้กับ เซอู โดยแต่งตั้งให้นางเป็นเทพเจ้าองค์ที่ 4 คือ “นกเพลิงสีแดง” ต่อมาทั้งสองที่ต่างมีรักแท้ให้แก่กัน และเซอูได้ให้กำเนิดบุตรชาย แต่ไม่ทันไรได้ถูก คาจิน ตามมาแก้แค้น เซอู คิดว่านางได้เสียบุตรชายไปแล้วโดยไม่รู้ว่า ฮวานอุง สามารถมาช่วยได้ทัน จนทำให้นางคลุ้มคลั่ง และไม่สามารถคุมพลังนกเพลิงไว้ได้ จึงกลายเป็นปีศาจ และต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของ ฮวานอุง ด้วยความเสียใจฮวานอุง ได้ลั่นวาจาไว้ว่าอีก 2,000 ปี พวกเขาจะได้พบเจอกันอีก นี่คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวตำนานแห่งเกาหลี เที่ยง (1) บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พูโกกิ (BULGOGI) บ่าย นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ NAMI ISLAND สถานที่นัดพบกันครั้งแรกของ Jun Sang และ Yu Jin อิสระ ให้ท่านได้ถ่ายรูปและเดินชมความงามของต้นไม้สีน้ำตาลแดงที่ทอดยาวตลอดสองฝั่งถนน ซึ่งมีทั้งต้น CHESTNUT TREES , WHITE BIRCHES, GINKGO TREES, MAPLE TREES และ ต้นไม้อื่นๆ ที่สวยงามอีกหลายชนิด ท่านจะรู้สึกเพลิดเพลิน จนลืมเวลา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในห้วงแห่ง ความรัก จะรู้สึกว่าถนนแห่งความงามสายนี้สั้นเกินไป จากนั้นเดินทางสู่ตัวเมืองชุนชอน ให้ทุกท่านได้ผ่อนคลายกับอีก 1 บรรยากาศของเมืองชุนชอน เมืองที่ได้รับสมญานาม ว่า “The City of Lake” และที่นี่ก็ยังมีสีสรรแห่งการช้อปปิ้งที่ทุกท่านไม่ควรพลาดที่ ชุนชอน-เมียงดอง หรือสยามสแควร์แห่งเมืองชุนชอน ซึ่งที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ “Winter Song” หรือเพลงรักในสายลมหนาว อีก 1 สถานที่เช่นกัน ถ้าทุกท่านยังพอจำกันได้จะเป็นฉากที่นางเอกและพระเอกสัญญากัน ว่า จะมาพบกันใน วันที่ 31 ธันวาคม แต่ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นซะก่อน จึงทำให้ทั้งคู่ไม่ได้มาพบกัน ให้ทุกท่านได้ซึมซับกับบรรยากาศหรือจะเดิน ช้อปปิ้งสินค้าราคาประหยัดกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องประดับ ฯลน จนได้เวลาอันสมควร ค่ำ (2) บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ชาบู ชาบู (SHABU SHABU) สมควรแก่เวลาพาท่านเข้าสู่ที่พัก ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ที่พัก โรงแรม DAEMYUNG YANGPYUNG HOTEL หรือเทียบเท่า วันที่สาม สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ Unlimit Ticket – กรุงโซล – ตึก 63 – ร้านกาแฟ Coffee Prince – ศูนย์โสมรัฐบาล

– ดิวตี้ฟรี – ช้อปปิ้งเมียงดง

เช้า (3) บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม พาท่านเดินทางสู่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (EVERLAND) เป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลี เป็นที่นิยม ของชาวเกาหลีและ ชาวต่างชาติ เป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ให้ท่านได้สนุกสนานกับการเล่นเครื่องเล่นต่างๆ บริการท่านด้วยบัตรแบบ UNLIMIT นอกจากนั้นภายในยังเป็นสวนพฤกษาชาติขนาดใหญ่ ชื่นชมกับสวนไม้ดอก ไม้ประดับที่งดงาม ชมสวนสัตว์ ซาฟารี ซึ่งมี “ ไลเกอร์ “ สัตว์พันธ์ ผสม ระหว่างเสือกับสิงโต ที่มีอายุมากกว่า 13 ปี หมีแสนรู้ และสัตว์อื่นๆอีกมากมายหลายชนิด ให้ท่านได้ช้อปปิ้งของที่ระลึกอย่างจุใจ นำท่านเดินทางสู่ ”กรุงโซล” เมืองหลวงของประเทศเกาหลี เที่ยง (4) บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หมูย่างเกาหลี (KALBI) บ่าย จากนั้นชมตึก 63 ชั้น ที่เป็นจุดเด่นและไฮไลท์ของ ยออีโดด้วยความสูง 264 เมตร มีชั้นใต้ดินถึง 3 ชั้น และชั้นที่เหนือพื้นดินขึ้นไป 60 ชั้น และเป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงโซล ชั้นที่ 59 และชั้นที่ 60 ของตึกระฟ้าหลังนี้ เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของกรุงโซล โดยเฉพาะเป็นฉากที่นางเอกยูรินฝัน ในตอนเด็กว่าต้องการจะมาแต่ไม่สามารถมาได้ แต่ในที่สุดนางเอกก็ได้มากับพระเอกกองซาน ถือเป็นสถานที่หนุ่มสาว ชาวเกาหลีมาออกเดทกัน ด้วยบรรยากาศที่โรแมนติกในช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ จนถึงค่ำ จากนั้นนำท่านสู่ Coffee Prince รักวุ่นวายกับเจ้าชายกาแฟ ละครเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายสุดแสนโรแมนติก เรื่องรวมของผู้หญิงสาวที่ปลอมตัว เป็นผู้ชาย กับหนุ่มแท้ที่นึกว่าตัวเองเป็นเกย์ อิสระให้ท่านได้เพลินเพลิดกับบรรยากาศ พิเศษ!! ให้ทุกท่าน ได้ลองลิ้มชิมรสชาตของกาแฟและเค้กภายในร้านพาท่าน ชม ศูนย์จำหน่ายโสม ซึ่งรัฐบาลรับรองคุณภาพว่าผลิต จากโสม ที่มีอายุ 6 ปีซึ่งถือว่ามีคุณภาพที่ดีที่สุด เนื่องจาก ประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่มีศูนย์โสมโลกตั้งอยู่โสมเกาหลีจึงได้รับการพัฒนาทั้งในด้านคุณภาพและบรรจุภัณฑ์อย่าง ต่อเนื่องและมีราคาถูกกว่าเมืองไทยหลายเท่าให้ท่านได้ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านพาท่านเลือกสรรสินค้าแบรนด์เนม ชื่อดังที่“ดิวตี้ฟรี” ร้านค้าปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวของกรุงโซล พบสินค้าหลากชนิดหลายยี่ห้อ อาทิ หลุยส์วิตอง, พราด้า , เฟอร์รา, กาโม่, กุชชี่, ชาแนล, เอสเตลอเดอร์, คลีนิกซ์, ลังโคม, รวมทั้งสินค้าแบรนด์เนม ท้องถิ่นยี่ห้อดัง “อาโมเร่” เครื่องสำอางดังของเกาหลี จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก ค่ำ (5) บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ไก่ตุ๋นโสม (GINSENG CHICKEN SOUP) และพาท่านไป ยังถนนนานาชาติของกรุงโซล และ ตลาดเมียงดง ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์ รวมแฟชั่นชั้นนำของเกาหลี ที่นี่มีทั้งห้างสรรพสินค้าล็อตเต้ เมโทรมิโดป้า และห้างสรรพสินค้าชินเซแก และร้านมิกลิออร์ ซึ่งตั้งอยู่ทั้งใต้ดินและบนดิน ขายเครื่องแต่งกายสำเร็จรูป รองเท้า เครื่องใช้เครื่องประดับ และเครื่องสำอางเป็นที่พึง ปรารถนาของนักซื้อนักแต่งตัวทั้งหลาย ตามตรอกด้านหลังจะมีร้านกาแฟและร้านอาหาร เพื่อแวะรับประทานอาหาร ได้ก่อนไปซื้อของต่อสุดปลายถนนเมียงดง ซึ่งพื้นที่เป็นเนินมีโบสถ์เมียงดง ถือว่าเป็นศูนย์กลางของศาสนาคาทอลิก ในเกาหลี เลยไปอีกอึดใจเดียวคือสมาคมวายดับเบิลยูซีเอ ซึ่งมีกิจกรรมหลายหลายเพื่อเสริมสร้างกิจกรรม

และสิทธิของสตรี ที่พัก โรงแรม PRESIDENT HOTEL (5 ดาว ย่าน CITY HALL) หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ กรุงโซล – บลูเฮาส์ – พระราชวังเคียงบ๊อกคุง – พิพิธภัณฑ์พื้นเมือง – โรงงานพลอยสีม่วง – ร้านค้าสหกรณ์ – กรุงเทพฯ

เช้า (6) บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านผ่านชม “บลูเฮ้าส์” ทำเนียบของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน “โน มู เฮียน” (ระหว่างแล่นผ่านไม่อนุญาตถ่ายภาพหรือวิดีโอใดๆ)จากนั้นถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับอนุสาวรีย์รูปนกฟีนิกซ์ สัญลักษณ์ความ เป็นอมตะ ชมทัศนีย์ภาพอันสวยงามของภูเขารูปหัวมังกรและวงเวียนน้ำพุนับเป็นจุดที่มี ฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดของกรุงโซล จากนั้น นำ ท่าน เข้าชม “พิพิธภัณฑ์คติชนพื้นเมือง” รับทราบประวัติความเป็นมาของคน เกาหลีตั้งแต่ ยุคโบราณจนถึงปัจจุบันผ่านทางห้องแสดงหุ่นจำลอง ซึ่งท่านจะได้ซึมซับวิถีชีวิตที่แสดงถึง ประเพณี วัฒนธรรม และธรรมเนียม ต่างๆ ที่ผ่านมากว่า 5,000ปี จากนั้นชม “พระราชวังเคียงบ็อก” ซึ่งเป็น พระราชวังไม้โบราณ ที่เก่าแก่ที่สุดสร้างขึ้นในค.ศ.1394 ใน อดีตกว่า 600 ปีก่อน ภายใน พระราชวัง แห่งนี้มีหมู่พระที่นั่งมากกว่า 200 หลัง แต่ได้ถูกทำลายไปมากในสมัยที่ญี่ปุ่นเข้ามา บุกยึดครอง ทั้งยังเคยเป็นศูนย์บัญชาการทางการทหารและเป็นที่ประทับ ของกษัตริย์ ปัจจุบันได้มีการก่อสร้าง หมู่พระที่ นั่งที่เคยถูกทำลายขึ้นมาใหม่ในตำแหน่ง เดิม และพาท่านถ่ายภาพคู่ กับ พลับพลา กลางน้ำ“เคียงเฮวรู” ที่ซึ่งเคยเป็นท้องพระโรงออกงาน สโมสรสันนิบาตต่างๆสำหรับต้อนรับ แขกบ้านแขกเมือง เที่ยง (7) บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน บ่าย นำท่าน พาท่านชม AMETHYEST FACTORY ชมพลอย นำโชคของชาว เกาหลี ซึ่งมี แหล่งกำเนิดใน ประเทศเกาหลี คนเกาหลีมี ความเชื่อว่า เป็นพลอยนำโชค นำความโชคดีมา ให้แก่ ผู้ที่มีไว้ครอบครอง ระหว่างทางไปสนามบินพาท่านแวะละลายเงินวอนที่ร้านค้า แถวสนามบิน ซึ่งท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อีกรอบหนึ่ง เป็นการส่งท้ายก่อนอำลาเกาหลี อาทิเช่น บะหมี่ซินราเมียน อุด้ง กิมจิ ขนมช็อคโก้เลต พาย ลูกอมแปลกๆ ที่ประเทศไทย อาจไม่มี น้ำจิ้มปรุงรส หมูย่างเกาหลี ไก่ตุ๋นโสมสำเร็จรูป ผลไม้ต่างๆในราคาพิเศษก่อนกลับเมืองไทย 17.15 น. นำท่านเหิรฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย

เที่ยวบินที่ KE651 20.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิ์ภาพพร้อมความประทับใจ