ฮังการี – ออสเตรีย – เชค – เยอรมันนี 9 วัน กรุงบูดาเปสต์ นครเวียนนา กรุงปราก เมืองมรดกโลกเชสกี้ คุร์มลอฟ ซาลสบวร์ก

วันแรก กรุงเทพฯ – กรุงเวียนนา (ออสเตรีย) 21.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (Austrian Airlines) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง

23.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศสาธารณรัฐออสเตรีย โดยเที่ยวบินที่ OS 026

วันที่สอง กรุงเวียนนา – บูดาเปสต์ – ชมเมือง – ล่องแม่น้ำดานูบ (ฮังการี) 05.20 น. เดินทางถึง สนามบิน SCHWECHAT กรุงเวียนนา หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำคณะเดินทางข้ามพรมแดนออสเตรีย ไปยัง สาธารณรัฐฮังการี บนเส้นทางที่มีธรรมชาติงดงาม มากด้วยศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ สัมผัสชีวิตผู้คนในชนบทชาวฮังกาเรียนสู่ กรุงบูดาเปสต์ ซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออสโตร-ฮังกาเรียน เมืองที่มีแม่น้ำดานูบไหลผ่านกลางเมืองซึ่งแบ่งเป็นสองฝั่งคือฝั่งที่อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของประวัติศาสตร์ “บูดา” และฝั่งที่หรูหราล้ำหน้าสมัยใหม่ด้วยวิทยาการ “เปสต์” อันเป็นที่มาของชื่อเต็มของเมืองหลวงแห่งนี้ นำคณะขึ้นสู่ เนินเขาเลิร์ท ชมทัศนียภาพโดยรอบของกรุงบูดาเปสท์ และแม่น้ำดานูบ บนความสูง 750 ฟุต อิสระให้เดินเล่นตามอัธยาศัย เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะเดินทางสู่ท่าเรือ จากนั้นลงเรือล่อง แม่น้ำดานูบ แม่น้ำสายโรแมนติค มนต์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของธรรมชาติและ อาคารรัฐสภา เป็นอาคารแบบนีโอโกธิคที่โดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ตลอดจนอาคารบ้านเรือนและความเป็นอยู่ของผู้คนสองฟากฝั่งแม่น้ำดานูบในยามบ่ายของ กรุงบูดาเปสต์ นำคณะเดินทางผ่านชุมชนโรมันโบราณขึ้นไปยัง Castle Hill ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับคฤหาสน์ของกษัตริย์ และโบราณสถาน ซึ่งยังมีร่องรอยบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต ชม ป้อมปราการฟิชเชอร์แมนบาสเตียน ที่สะท้อนประวัติศาสตร์การสร้างชาติฮังกาเรียน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมง ผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมืองในตอนที่ถูกพวกมองโกลรุกรานในปี ค.ศ. 1241-1242 และบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์แมทเทียส เป็นโบสถ์สำคัญของเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ที่โดดเด่นด้วยยอดโบสถ์อันงดงาม เคยใช้เป็นที่จัดพิธีสวมมงกุฎแด่กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์และ อนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่น ปฐมกษัตริย์ของชาวแมกยาร์ ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง Gaulash Party ลิ้มลองซุปเข้มข้นที่มีสีแดงสดของพริก “ปาปริก้า” เพลิดเพลินกับเสียงเพลง และการแสดงพื้นเมืองชาวแมกยาร์ พักค้างคืน ณ Hotel Novotel Budapest Congress 4 ดาวหรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม กรุงบูดาเปสต์ – จัตุรัสวีรบุรุษ – กรุงเวียนนา – ช้อปปิ้ง (ออสเตรีย)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำคณะชม จัตุรัสวีรบุรุษ สถานที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรบุรุษผู้กอบกู้ชาติ และยังใช้ในพิธีสวนสนามของทหารฮังการี จากนั้นนำชมความยิ่งใหญ่อลังการของ มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น ใจกลางเมือง ก่อนนำคณะเข้าสู่ ถนนวาซี่ แหล่งช้อปปิ้งที่มีสินค้า และของที่ระลึกพื้นเมืองมากมาย เช่น ผ้าลูกไม้, ผ้าปัก, เครื่องแก้ว, ไข่ระบายสี และสินค้า Brand name ที่มีชื่อของฮังการีภายในห้างสรรพสินค้าหรูหรา สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางสู่ กรุงเวียนนา นครหลวงแห่งศิลปะและดนตรี เมืองหลวงอันเก่าแก่กว่าพันปีของออสเตรีย และยังเคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะเที่ยวชม นครเวียนนา โดยเริ่มต้นจาก ถนนวงแหวน Ring Strasse ผ่านชม โรงอุปรากร, พระราชวังฮอฟบวร์ก, อาคารรัฐสภา, ศาลาว่าการ, มหาวิทยาลัยเวียนนา, โบสถ์ประจำเมือง, ศาลสูง แวะเดินเล่นใน สวนสาธารณะสตัดปาร์ค ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์ โยฮันสเตร้าส์ เจ้าของบทเพลงอมตะ “By The Beautiful Blue Danube” จากนั้นนำคณะสู่ ถนนคาร์ทเน่อร์ ย่านถนนการค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ มากมาย ชม วิหารเซนต์สเตฟาน ซึ่งตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา เชิญท่านเลือกซื้อหาของฝากจากออสเตรีย อาทิเช่น เครื่องแก้วเจียระไน, คริสตัล ของที่ระลึกต่างๆ นั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ ชมชีวิต ผู้คนของชาวเวียนนาตามอัธยาศัย ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ หมู่บ้าน Grinzing หมู่บ้านพื้นเมืองที่มีชื่อเรื่องการผลิตไวน์สดอิ่มอร่อยกับขาหมูและไส้กรอกในรสชาติแบบเวียนนา ต้นตำรับขนานแท้พร้อมไวน์เลิศรส ผสมผสาน และขับกล่อมด้วยดนตรีพื้นเมืองอันแสนไพเราะ พักค้างคืน ณ Hotel Even Pyramid Vienna 4 ดาว หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่ กรุงเวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – กรุงปราก (เชค)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำคณะเข้าชม พระราชวังเชินบรุนน์ พระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮับสบูร์กที่ถูกสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 โดยพระประสงค์ของ พระนางมาเรียเทเรซ่า จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมัน ที่ตั้งพระทัยว่าจะสร้างพระราชวังแห่งนี้ ให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ในกรุงปารีส สัมผัสความงามอันวิจิตรตระการตาภายในห้องต่างๆ กว่า 20 ห้อง (Imperial Tour) อาทิเช่น ห้องทรงงาน, ห้องบรรทม, ห้องเกรทแกลเลอรี, ห้องบิลเลียด, ห้องไชนีสรูม ฯลฯ จากนั้นชื่นชมอุทยานสวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่จัดแต่งไว้อย่างร่มรื่นงดงาม เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะเดินทางขึ้นสู่ทางตอนเหนือของออสเตรีย แล้วข้ามพรมแดนเข้าสู่ กรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเชค ซึ่งตั้งอยู่ริมสองฟากฝั่ง แม่น้ำวัลตาวา ผ่านชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่แสนงดงามตลอดสองข้างทาง

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ Hotel Crown Plaza 4 ดาว หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า กรุงปราก – ปราสาทปราก – ชมเมือง เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม สู่ย่านศูนย์กลางของเมือง ชมโบราณสถานเก่าแก่อายุกว่า 650 ปี ปราสาทปราก เริ่มสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ด้วยศิลปะแบบโกธิค ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลและที่พำนักท่านประธานาธิบดี ชมความใหญ่โตโอ่อ่าของตัวปราสาทและ มหาวิหารเซนต์วิตัส มหาวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งของชาวเชคทุกคน เนื่องจากเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์พระองค์ต่างๆ แล้วยังเป็นที่เก็บมงกุฎเพชรที่ทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้กรุงปรากเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโบฮีเมียและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ นำคณะเดินข้ามแม่น้ำวัลตาวาโดย สะพานชาร์ลส์ ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคตลอดราวสะพานมีประติมากรรมหินทรายรูปปั้นของนักบุญต่างๆ ถึง 30 รูปซึ่งมีความงดงามและไม่ซ้ำแบบ สัมผัสเหล่าศิลปินที่นำผลงานมาแสดงอยู่ริมสองข้างสะพาน เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะเดินชมย่าน จัตุรัสเมืองเก่าสตาเรเมสโต สถานที่นัดพบของชาวปราก บริเวณโดยรอบล้วนเป็นอาคาร และวิหารเก่าแก่อายุกว่า 600 – 700 ปี ที่มีความงดงามโดดเด่น จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้ป็นมรดกโลก ชม อนุสาวรีย์ยานฮุส ผู้นำฝ่ายปฏิรูปศาสนาซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกนอกรีต ถูกเผาทั้งเป็นโดยผู้ปกครองของฝ่ายคริสต์ศาสนจักรโรมันคาทอลิค และ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ที่ทุกๆ 1 ชั่วโมงจะมีตุ๊กตาสาวกพระคริสต์ (12 Apostles) ออกมาเดินผ่านหน้าต่างเล็กๆ ด้านบน หอคอยจนครบ 12 องค์ บริเวณใกล้เคียงกันนี้ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวยิวที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป อิสระช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองน่ารักสไตล์เชค และโบฮีเมียนที่มีให้เลือกมากมาย เช่น เครื่องแก้วสีต่างๆ ที่ประดับด้วยเงิน, ตุ๊กตาหุ่นกระบอก, งานผ้าปัก รวมถึงชิ้นงานแกะสลักต่างรูปแบบ ฯลฯ ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ Hotel Crown Plaza 4 ดาว หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก กรุงปราก – เชสกี้ คุร์มลอฟ – ซาลสบวร์ก (ออสเตรีย)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม เดินทางสู่ เมืองเชสกี้ คุร์มลอฟ มรดกโลกอีกเมืองหนึ่งของสาธารณรัฐเชค ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางด้านการปกครอง การพิพากษาคดีและการจัดเก็บภาษี ต่อมาในปี ค.ศ.1963 ได้รับการประกาศว่าเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์และภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของประเทศ ในตอนปลายปี ค.ศ. 1989 ได้มีการบูรณะอาคารและปราสาทครั้งใหญ่โดยยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้อย่างน่าชื่นชม จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความสำคัญและโดดเด่นในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ทำให้องค์การยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนเมืองคุร์มลอฟให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1992 เชิญท่านถ่ายรูปที่ระลึกภายนอกของ ปราสาทคุร์มลอฟ ซึ่งเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีห้องต่างๆ ถึง 40 ห้อง ลานหน้าปราสาท 5 แห่งและอุทยานอีก 1 แห่งที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา ชมทัศนียภาพของตัวเมืองจากลานหน้าอุทยาน ภาพที่ท่านเห็นคือบ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อย หลังคาสีส้มเรียงรายกันเป็นกระจุกๆ เหมือนบ้านตุ๊กตาที่สวยงามยิ่งนัก เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย เดินทางข้ามพรมแดนเชค-ออสเตรียเข้าสู่ ซาลสบวร์ก เมืองโรแมนติคที่มีแม่น้ำซาลซัคไหลผ่านใจกลางเมือง ระหว่างเส้นทางผ่านชมทะเลสาบมอนด์เซ ที่ใช้เป็นฉากถ่ายทำตอนหนึ่งในภาพยนตร์ The Sound of Music ที่โด่งดังไปทั่วโลก นำคณะเข้าชม อุทยานมิราเบลล์ อุทยานของปราสาทที่ใช้เป็นสถานที่แต่งงานที่จัดได้ว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ชม สวนแคระ “ซแวร์เกิล การ์เท่น” ที่แปลกตา, การจัดดอกไม้ประดับอย่างงามตาหลากหลายสีสัน, สวนวงกต, โรงละครในแมกไม้และทิวทัศน์ของ ป้อมปราการโฮเฮ็นซัลสบวร์ก ซึ่งตั้งตระหง่านบนยอดเขาเป็นฉากหลังเพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับสวนแห่งนี้ จากนั้นถ่ายภาพที่ระลึกหน้า บ้านพักโมสาร์ท ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงหลักฐานประวัติศาสตร์ของครอบครัวโมสาร์ท พร้อมชม อนุสาวรีย์โมสาร์ท ชมความงดงามของ จัตุรัสวิหารหลวง ศิลปะแบบบารอคในยุคต้น

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ Hotel Dorint Novotel Salzburg 4 ดาว หรือระดับเดียวกัน

วันที่เจ็ด ซาร์ลสบวร์ก – โฮเฮนชวานเกา – ปราสาทนอยชวานชไตน์ (เยอรมนี) – อินน์สบรูก – (ออสเตรีย) เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำคณะข้ามสะพานสู่ฝั่ง เมืองเก่าที่ถนนเกไทรเด้ ถนนช้อปปิ้งที่มีการตกแต่งไว้อย่างงดงามอีกเส้นหนึ่งของโลก ซึ่งตกแต่งด้วยลวดลายของเหล็กดัดไว้อย่างงดงาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองซาลสบวร์ก ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้านหน้า บ้านเกิดของโมสาร์ท ซึ่งเป็นนักดนตรีเอกที่ชาวออสเตรียนภาคภูมิใจ สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางข้ามพรมแดนออสเตรีย-เยอรมนีสู่เมือง ฟุสเซ่น ปลายสุดของเส้นทางถนนสายโรแมนติก ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ในแคว้นบาวาเรีย เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,000 ปี สวยงามด้วยทะเลสาบและป่าสน ก่อนเข้าสู่ หมู่บ้านโฮเฮนชวานเกา หมู่บ้านที่น่าอยู่มากๆ อากาศก็ดี บ้านเรือนก็สวยงาม อีกทั้งผู้คนของเมืองนี้ก็มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีอีกด้วย เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย เดินทางโดยรถมินิบัสขึ้นสู่ ปราสาทนอยชวานชไตน์ ลัดเลาะไปตามเส้นทางไหล่เขาสู่ สะพานควีนแมรี่ จุดชมวิวของปราสาทที่ดีที่สุด ชมความสวยงามของป่าไม้ และบ้านพักสไตล์ชาเล่ย์ที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลากหลายสี ชมทิวทัศน์อันงดงามของตัวปราสาทที่โดดเด่น มีทะเลสาบและธารน้ำล้อมรอบ เข้าชมภายในตัวปราสาทที่ตกแต่งไว้อย่างอลังการ ปราสาทนี้สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 18–19 รัชสมัยของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ตามจินตนาการของคีตกวีชาวเยอรมนี ริชาร์ดวากเนอร์ พระสหายคู่พระทัย ชม ห้องทรงงาน, ห้องบรรทม, ห้องฮอลล์ที่ใช้ในการแสดงโอเปร่าและคอนเสิร์ต รับฟังเรื่องราวอันน่าสลดใจของผู้ที่สร้างปราสาทแห่งนี้ และความงามของปราสาทที่ยากเกินกว่าจะบรรยาย แม้กระทั่งราชาการ์ตูนวอล์ทดิสนีย์ยังได้จำลองแบบไปเป็นปราสาทในเทพนิยาย อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ จากนั้นเดินทางสู่ อินน์สบรูก เมืองท่องเที่ยวแห่งแคว้นทิโรลของประเทศออสเตรีย ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ Innsbruck Hotel 4 ดาว หรือระดับเดียวกัน

วันที่แปด อินน์สบรูก – เวียนนา – กรุงเทพฯ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม หลังอาหารเช้า นำคณะสู่ ถนนมาเรียเทเรซ่า ถนนสายหลักของเมืองอินน์สบรูก เชื่อมระหว่างเขตเมืองเก่ากับย่านช้อปปิ้งสมัยใหม่ ตรงกลางถนนเป็นที่ตั้งของ เสาอันนาซอยแล (เสานักบุญแอนน์) ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึงการถอนกองกำลังทหารบาวาเรียออกไปจากเมือง ชม ย่านเมืองเก่า ที่ยังคงสภาพและบรรยากาศของยุคกลางได้เป็นอย่างดี อาคารบ้านเรือนที่มีอาร์คเดคชั้นล่างและมีมุขยื่นออกมาที่ชั้นบน แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมแบบโกธิคตอนปลายและเรอเนสซองส์ บริเวณนี้คือที่ตั้งของ หลังคาทองคำ ที่สร้างในปี ค.ศ.1500 สมัยจักรพรรดิแม็กซิมิเลี่ยนที่ 1 หลังคามุงด้วยแผ่นทองแดงเคลือบทองสว่างไสว แวะชม โรงแรมเก่าแก่ประจำเมือง โรงแรมโกลเดนเนอร์ แอดเลอร์ ซึ่งเคยใช้ในการต้อนรับราชอาคันตุกะและบุคคลสำคัญๆ จากต่างแดนหลายท่าน ตามพระนามและรายชื่อที่จารึกไว้ในศิลาด้านหน้าของโรงแรม จากนั้นอิสระเลือกซื้อชื้อเครื่องแก้วเจียระไนชั้นดีของ Swarofski ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน SCHWECHAT กรุงเวียนนา ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร มื้อส่งท้ายก่อนขึ้นเครื่องบิน 23.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ OS 025

วันที่เก้า กรุงเทพมหานคร

14.30 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี….