โรงละครมายากล Nris Magic Show ณฤทธิ์ เมจิค โชว์ กล มายากล เล่นกล การแสดงมายากล

รายละเอียด ณฤทธิ์ ภักดีภูเบศร์ เป็นนักแสดงคนไทยที่ทั้งคนไทยและต่างประเทศ ให้ฉายาว่า ราชาเงา เพราะหนึ่งในการแสดง คือ ชุด Hand Shadow ซึ่งเขาใช้มือ เพียง 2 ข้าง สะกดผู้ชมกว่า 20,000 คนให้นิ่งแทบไม่เคลื่อนไหวที่เมืองบันดุงประเทศ อินโดนีเซีย และได้รับการยกย่องว่าเป็นนักมายากล ที่มีความสนุกสนาน และเป็นการแสดงชุดใหญ่ ๆ ที่เมืองไทยแทบจะไม่มีใคร โดยเปิดเป็นโรงละครมายากล ทำการแสดงแบบเต็มรูปแบบ ซึ่ง ท่านผู้ชมจะได้ ตื่นตากับการเสกรถทั้งคันต่อหน้าต่อตาผู้ชม, อัศจรรย์กับการทำคนให้ลอยแล้วหายไปกลางเวที ,เพลิดเพลินกับกลไพ่คาสิโนที่ตาจับแทบไม่ทัน,สุดเซ็กซี่กับกลการแสดงเปลี่ยนชุดของผู้ช่วยสาวสวยกลโดยเปลี่ยนชุด หลากหลายสีสันใน 1 วินาที, และที่พลาดไปไม่ได้กับกลศิลปวัฒนธรรมการรวมศาสตร์ของมายากลกับวัฒนธรรมไทยไว้ด้วยกัน ไม่น่าเชื่อกับการเสกผู้ช่วยมาทีละคน ย้ายไปมา สุดท้ายทั้งผู้ช่วยและนักมายากล หายไปหมดทั้งเวที อีกทั้ง กล Entertain magic อื่น ๆ อีกมากมาย 1 ชม.เต็ม

ฉากที่1 appearance moto

ฉากนี้เป็นฉากที่พูดถึงการเปิดตัวนักมายากล ด้วยวิธีต่าง ๆ ตามหลักศาสตร์ของมายากล ซึ่งปกติแล้วมีได้หลายแบบด้วยกัน แต่ที่โรงแรมฮิลตัน อ.ณฤทธิ์ ใช้ รถมอเตอร์ไซด์ชอปเปอร์ หนักเกือบ 300 กิโล เป็นตัวเปิดตัว ท่ามกลางความมืดมิดของฉากเวที สาวสวย ยกฉากผ้าขึ้น เมื่อดึงผ้าลงไม่ถึง 1 วินาที นักมายากล ปรากฎตัวพร้อมมอเตอร์ไซด์คันโต เป็นการเรียกน้ำย่อย ให้ผู้ชมตะลึงกับการแสดงได้เป็นอย่างดี

ฉากที่ 2 ทักทายผู้ชมด้วยกลสุดคลาสสิค

นำไม้เท้ามาเต้นรำ กับนักมายากล และตามมาด้วยการเสกธนบัตร จากกระดาษทิชชูธรรมดา จากหนึ่งใบเป็นสองใบ สองใบเป็นสามใบ และออกมาเรื่อย ๆ อย่างมากมาย ซึ่งนักมายากาลทั่วไป จะใช้วิธีการเสกไพ่ แต่สำหรับการแสดง ของอ.ณฤทธิ์ มีการประยุกต์เป็นธนบัตร และเสกดอกกุหลาบ เป็นการทักทาย ท่านผู้ชม

ฉากที่ 3 กลตลก

ยืมเงินผู้ชม 100 มาเปลี่ยนเป็น 1000 แต่กลับกลายมาเป็นแบงค์ 20 และตัดบทโดย นำเข้า การแสดงชุดต่อไป

ฉากที่ 4 Close-up magic หรือ slide of hand หรือเรียกง่าย ๆ คาสิโน เมจิค

ชุดนี้ ดูเหมือนการแสดงง่าย ๆ ใช้แค่มือเปล่า ๆ สร้างสรรค์สิ่งที่แปลกตา และเหลือเชื่อบนโต๊ะธรรมดา ๆ ด้วยความ่ลงตัวของไพ่ เหรียญ แก้ว การแสดงเพียง 4 5 นาที แต่ใช้เวลาฝึกฝนเกือบ 2 ปี

ฉากที่ 5 The moon light of spirit

กล่าวถึง ความลงตัวของความโรแมนติก และมายากล จากการวาดกระดานเปล่า ๆ เสกผู้ช่วยสาวสวยออกมา ด้วยชุดสีแดงสง่า และนำเข้าไปอยู่ในตู้ อากิมิ พับหดตัวจนผู้ช่วยหายไป หลังจากนั้นนำดาบหลายเล่มเสียบ จนแทบจะไม่เหลือ ที่ให้ซ่อนอยู่ มีการเคลียกล่องให้ผู้ชมดูได้ 180 องศา เมื่อเอามีดออก เปิดกล่องออกมาพร้อมผู้ช่วยแสนสวย เปลี่ยนจากชุดสีแดงเป็นชุดราตรีสีฟ้าอ่อน ด้วยความสวยงาม นำผู้ช่วยออกมาพร้อมใส่ชุดคลุม เดินไปรอบเวที เมื่อนักมายากลจับชุดคลุมสะบัด ผู้ช่วยก็หายไปในพริบตา

ฉากที่ 6 มายากลตลก

ใช้เพียงเชือกเส้นเดียวสร้างเสียงหัวเราะจากผู้ชม โดยการเลือกผู้ชมใครก็ได้ขึ้นมาผูกมัดนักมายากลอย่างแน่นหนา อ.ณฤทธิ์ สามารถใช้เวลาไม่ถึง 3 วินาที ก็สามารถหลุดจากพันธนาการออกมา สร้างความตะลึงให้ทั้งผู้ชมและผู้ที่ขึ้นมามัดบนเวที

ฉากที่ 7 Dream come true

กล่าวถึง ความฝันของนักมายากลคนหนึ่ง ที่ต้องการลอยได้ เพียงเสกลูกแก้ว สีทองให้ลอย ฉีกลูกแก้วออกมาเป็นผ้า เมื่อเปิดผ้าออกมากลายเป็นผู้หญิงลอยอย่างสวยงาม สามารถเคลียไม่ใช้เชือกไม่ใช้สลิงโดยใช้ห่วงลอดผ่านตัวผู้หญิง และผู้หญิงซึ่งเป็นผู้ช่วยลอยขึ้นลอยลง จบสุดท้ายผู้ช่วยสาวหายไปกลางเวที

ฉากที่ 8 ศิลปะHand Shadow

เป็นศิลปะชั้นสูง ซึ่งสืบทอดมาจากนักมายากลอียิปต์โบราณ และผันแปรมาเป็นการละเล่นต่าง ๆ เช่นหนังตะลุง หรือตัววายัง ในประเทศอินโดนีเซีย อ.ณฤทธิ์ ใช้เพียงสองมือแต่งแต้มเรื่องราวเป็นรูปต่าง ๆ สร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ชม ราวกับถูกมนต์สะกด และชุดนี้ เคยสะกดคนดูกว่า 20000 คนที่บาหลี จนได้รับฉายาว่า ราชาเงา จนปัจจุบัน ฉากที่ 9 การแสดงมายากลคนทะลุตัว

ฉากที่ 10 กลตลก

เชิญผู้ขมขึ้นมาบนเวทีสอนมายากลทำกระดาษหาย ผู้ชมขึ้นมาทำตามนักมายากลทุกอย่าง นักมายากลทำได้ แต่ผู้ชมทำไม่ได้ หลังจากนั้นให้ผู้ชมเลือกไพ่มาหนึ่งใบ และโชว์ให้แขกผู้มีเกียรติท่านอื่นจำไว้ นำไพ่กลับมาใส่ไว้ในสำรับ และสับไพ่ตามต้องการ จากนั้น โยนไพ่ขึ้นไปกลางอากาศ และใช้มีดเสียบขึ้นไปติดไพ่ใบที่ผู้ชมเลือกไว้ ด้วยความอัศจรรย์

ฉากที่ 11 Thailand Magic Show

เป็นฉากที่สำคัญฉากหนึ่ง ซึ่งเป็นไอเดียใหม่ เป็นการผสมผสานระหว่าง ความเป็นไทย และความเป็นนักมายากลได้อย่างลงตัว โดยใช้ชุดไทย เพลงไทย ในการแสดง เสกผู้ช่วยมาทีละคน

ย้ายไปย้ายมา และสุดท้ายทั้งนักมายากลและผู้ช่วยหายไปทั้งเวที