แพคเกจทัวร์ เชียงใหม่ 7 สิ่งมหัศจรรย์

เชียงใหม่ ใครๆก็รู้ว่าเป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี มีทิวทัศน์สวยงามและแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ วัฒนธรรม และผู้คนอ่อนหวานอ่อนน้อม ตามลักษณะของล้านนาไทยแต่ จะมีกี่คนที่รู้และเคยสัมผัสเชียงใหม่ในมุมประหลาดๆที่แฝงอยู่มากมาย

จนอาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจริงก็ว่าได้

วันแรก : (Dinner) 

รับจากสนามบิน สถานีรถไฟหรือขนส่ง เข้าเช็คอินที่โรงแรม มณีนาราครในตัวเมืองเชียงใหม่หรือเทียบเท่า จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย หลังจากที่ท่านเดินทางมาถึงประมาณ 1 ชม. นำท่านไปสัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ อย่างแรกที่วัดโป่งช้างคด (1) ภายในกุฏิ ที่จำวัดเก่าของเจ้าอาวาสซึ่งพึ่งมรณภาพไป ปรากฏภาพมหัศจรรย์การหักเหของแสงลอดผ้าม่าน มองเห็นด้านนอกวิหารเป็นภาพเคลื่อนไหวกลับหัวขนาดใหญ่กว่าพระธาตุลำปางหลวง สร้างความตื่นตะลึงฮือฮาให้ชาวบ้านเข้าไปเยี่ยมชมไม่ขาดสาย จากนั้น พาท่านเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่โดยผ่าน ถนนรถวิ่งเลนขวา (2) เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่ากฎจราจรในเมืองไทย ต้องขับรถชิดซ้าย แต่ที่เชียงใหม่ บนถนนช้างม่อยตัดใหม่ข้างวัดแสนฝาง (เป็นทางลัด ยาวแค่ 300 เมตร) กำหนดให้ต้องขับรถชิดขวาเพื่อความสะดวกในการจราจร คนต่างถิ่นอย่าหลงขับเข้าไปเส้นนี้นะ งงตายเลยเจ้า… 12.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน 13.00 น. เยือนวัดชมพู วัดฝาแฝดดอยสุเทพ (3) ตั้งอยู่ที่ ถนนช้างม่อยเก่า ซ.1 ในอดีต การขึ้นไปไหว้สาพระบรมธาตุดอยสุเทพ เป็นเรื่องยากลำบากแสนเข็ญ เนื่องจากยังไม่มีรถ ไม่มีถนน วัดชมพูจึงสร้างพระเจดีย์จำลองพระเจดีย์ของวัดพระธาตุดอยสุเทพ ชนิดที่เหมือนกันจนแทบแยกแยะไม่ออก เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่ไม่สามารถขึ้นไปดอยสุเทพ ได้มานมัสการบูชาได้ที่วัดแห่งนี้แทน 14.00 น. สักการะอนุสาวรีย์พญามังราย (4) ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า พญามังราย ซึ่งเป็นถึงกษัตริย์ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงใหม่(พ.ศ.1839) จะต้องมาสวรรคตโดยถูกอัสนีบาต (ฟ้าผ่า) ตกต้องพระองค์ ณ ใจกลางเมืองที่ทรงสร้างขึ้นด้วยพระองค์เอง ดังมีคำกล่าวว่า “พญามังราย ต๋ายฟ้าผ่าก๋างกาด (พญามังราย ตายฟ้าผ่ากลางตลาด)” บ้างก็ว่าเนื่องจากพระองค์ทรงช้าง ตำแหน่งที่อยู่จึงสูงกว่าชาวบ้านทั่วไป และสมัยนั้นไม่มีสายล่อฟ้า กอปรกับเครื่องทรงช้างทำจากทองเหลืองทั้งหมด คงเป็นตัวนำไฟฟ้าตามหลักวิทยาศาสตร์ บ้างก็ว่าพระองค์ได้สวรรคตไปแล้วด้วยโรค หรือสาเหตุบางประการ แต่เนื่องจากท่านเป็นผู้มีบารมีสูงส่ง สวรรค์ชั้นฟ้าจึงได้สร้างฟ้าผ่าขึ้นมา เพื่อประกาศว่าผู้มีบุญบารมีท่านหนึ่งได้จากไป ก็แล้วแต่ใครจะเลือกเชื่อตำราไหน สำหรับ หอพญามังราย ตั้งอยู่แยกกลางเวียง (ใจกลางตัวเมืองเก่าเมืองเชียงใหม่) 15.00 น. นมัสการวัดพันเตา (5) ถ้าเอ่ยถึงวัดในเชียงใหม่ซึ่งมีมากกว่า 300 แห่ง คนส่วนมาก จะรู้จักวัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดพระสิงห์ วัดเชียงมั่น วัดเจ็ดยอด หรือวัดเจดีย์หลวง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า มีวัดเล็กๆที่น่าเยี่ยมชมอยู่อีกวัดหนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนมากมองข้ามไป ตั้งอยู่ข้างๆวัดเจดีย์หลวง (มีคนกล่าวว่า วัดพันเตา เป็นวัดแสตมป์ ของวัดเจดีย์หลวง เนื่องจากเป็นวัดเล็กๆที่ตั้งอยู่ตรงมุมของวัดเจดีย์หลวง) วัดพันเตา มีพระวิหารไม้สัก เก่าแก่นับร้อยปี มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก และที่สำคัญ คือ มีลายไม้แกะสลักนกยูงสุดยอดของความสวยประดับอยู่เหนือประตูทางเข้าพระวิหาร ขอบอกว่าสวยจริงๆ สวยจนเคยถูกขโมยไปพักใหญ่ แต่สุดท้ายโจรกลับใจเอามาคืนเพราะต้องอาถรรพ์ มีอันเป็นไป 16.00 น. ส่งท่านกลับที่พัก 19.00 น. อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองเหนือไม่ว่าจะเป็น แคบหมู น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล หมี่กรอบ ฯลฯ

แบบขันโตก   ณ คุ้มขันโตก  พร้อมชมการแสดงฟ้อนรำตามแบบฉบับชาวล้านนาและการแสดง

ของชาวเขาเผ่าต่างๆอันแสนประทับใจ 

21.30 น. กลับที่พัก


วันที่สอง : (Breakfast, lunch) 

08.30 น. พิสูจน์ด้วยตาคุณเอง กับการพรมน้ำมนต์เสกพระธาตุอันเลื่องชื่อซึ่งยังเป็นที่กังขาของวัดปันเสา(6) เป็นมายากลทางวิทยาศาสตร์ หรือเป็นปาฏิหาริย์อันเกิดจากความเชื่อความศรัทธา พิสูจน์ด้วยตาของท่านเองแล้วจะทราบ (ต้องขออภัยหากช่วงที่ท่านเดินทางตรงกับช่วงที่พระท่านรับกิจนิมนต์ เรา จะปรับเปลี่ยนโปรแกรมพาท่านไปชมพระพุทธรูปที่โลกลืม ในวัดมหาวัน ซึ่งมีประวัติว่าในสมัยร.5 คหบดีชาวพม่าตั้งใจจะใช้พื้นที่นี้ในการสร้างบริษัทบอร์เนียว แต่ขณะก่อสร้าง เกิดอุบัติเหตุคนงานเสียชีวิต เจ้าของจึงปรับเปลี่ยนให้เป็นวัด และนำพระพุทธรูปศิลปะพม่าองค์ยักษ์ หน้าตัก 15 x 15 ศอก มาประดิษฐานไว้แทน พระพักตร์งดงามสูงใหญ่ แต่ถูกซ่อนไว้ในตึกร้าง แม้แต่ชาวเชียงใหม่ ยังไม่รู้จัก) 09.30 น. นมัสการหลวงพ่อสมใจนึก (7) พระพุทธรูปยิ้มได้ ณ วัดอุโมงค์เถระจันทร์ พร้อมสัมผัสความมหัศจรรย์ขององค์พระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์หนึ่ง อายุกว่า 600 ปี ซึ่งมองดูแบบผิวเผิน อาจเป็นเหมือนพระพุทธรูปธรรมดา แต่ใครจะรู้ว่า พระพักตร์ขององค์พระพุทธรูปสามารถเปลี่ยนแปลง ได้ถึง 9 แบบ ตามการหักเหของแสง เป็นความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์หรือความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธานุภาพ จึงสร้างปรากฏการณ์ อันน่าอัศจรรย์ใจเช่นนี้ พิสูจน์ด้วยตาคุณเองก่อนใคร 11.00 น. พาท่านนั่งรถเล่น ผ่านวังของนครเชียงใหม่ซึ่งในปัจจุบัน กลายเป็นทัณฑสถานหญิง! (8) เมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนเชียงใหม่ ต่างถามว่า เมื่อเชียงใหม่เป็นเมืองโบราณ อายุกว่า 700 ปี มีกษัตริย์ครองราชย์อยู่หลายพระองค์ แต่ตัววัง หรือพระตำหนักล่ะ ตั้งอยู่ที่ไหน? ไม่เชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ ว่าสถานที่ที่เคยเป็นหอราชมณเฑียรและเวียงแก้วของเมืองเชียงใหม่ ในปัจจุบันนี้คือ “เรือนจำ” เวียงแก้วและหอคำของพญากาวิละ เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ 1 สร้างในปี พ.ศ.2451 เลขที่ 100 ถ.ราชวิถี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พื้นที่ 8 ไร่ 3 งาน 70 ตารางวา เป็นสถาปัตยกรรมหอราชมณเฑียรและเวียงแก้ว มีทั้งหมด 7 หลัง สร้างในสมัยเริ่มการผนวกล้านนา เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสยาม สถาปนิกชาวยุโรป มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกตามแนวเหตุผล เรียบง่าย ตรงไป ตรงมา (Rationanism) อาคารก่ออิฐหนามากฉาบปูนหลังคาทรงปั้นหยาในการวางผังอาคารลักษณะสมมาตรล้อมรอบสนามตรงกลาง สามารถเยี่ยมชมได้เฉพาะจากภายนอกเท่านั้น ไม่ไกลจากวังนัก ท่านจะได้พบกับ นายขัน ไก่ทอดมือเหล็ก (9) เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของเชียงใหม่ ที่เลื่องชื่อ พ่อค้าขายไก่ทอดธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งนั่งขายไก่ทอดอยู่ดีๆ เกิดมีมะม่วงตกใส่กระทะ จนน้ำมันกระฉอกกระเด็นรดตัว แต่ปรากฏว่าไม่มีแม้รอยแผลพุพอง ด้วยความประหลาดใจ นายขันจึงทดลองทอดไก่ด้วยการเอามือลงไปจุ่มในน้ำมันเดือดๆ จึงเกิดกลายเป็นนายขัน ไก่ทอด กระทะเหล็กขึ้นนับแต่นั้นมา สร้างความประหลาดใจให้ผู้พบเห็นโดยทั่วกัน ท่านสามารถลองชม ลองชิม ไก่ทอดมือเหล็กกันได้ รสชาติอร่อยน่าทึ่งไม่แพ้กรรมวิธีทอดเลยทีเดียว 12.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวันกันที่โครงการหลวง ฝั่งตรงข้ามกับสวนรุกขชาติ ถ.ห้วยแก้ว เป็นที่ตั้งของร้านขายของในโครงการหลวง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากดอยสุเทพ หรือสวนสัตว์เชียงใหม่ สามารถแวะเลือกซื้อสินค้าโครงการหลวง ประเภทพืช ผัก ผลไม้เมืองหนาวสดๆ นานาชนิด ได้อย่างสะดวกสบาย ที่นี่ ท่านจะได้ลองลิ้มรส ขนมจีนน้ำยาปลาเทราท์ (10) ปลาเทราท์เป็นปลาน้ำจืดอาศัยอยู่ตามลำธารในอเมริกาเหนือ รสชาติดี นิ่ม มีเนื้อแน่น ก้างน้อย สามารถลดคอเลสตอรอลในเส้นเล
ือดและกระแสโลหิต ในเมืองไทยหายากมาก มีฟาร์มเพาะเลี้ยงอยู่เฉพาะทางตอนเหนือของประเทศเท่านั้น 13.00 น. พาท่านขึ้นนมัสการ วัดผาลาด วัดป่าซึ่งมีน้ำตกไหลผ่าน สามารถมองเห็นเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจนในวันที่ฟ้าเปิด นอกจากบริเวณวัดที่สวยงาม เงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเจริญภาวนาแล้ว บริเวณใกล้น้ำตก ยังพบบ่อน้ำทิพย์อายุกว่า 70 ปี (11) ซึ่งเป็นบ่อที่ท่านครูบาศรีวิชัยได้ขุดไว้ให้ผู้ใจบุญที่ร่วมสร้างทางขึ้นดอยสุเทพได้พักดื่มกิน เป็นบ่อน้ำในที่สูงซึ่งหาได้ยาก และมีน้ำอยุ่เรื่อยๆ ไม่เคยแห้งขอดอีกด้วย 15.00 น. เมื่อเดินทางมาถึงเชียงใหม่แล้ว คงพลาดไม่ได้ที่จะต้องมาสักการะวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งถือเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มานับ 700 ปี แต่จะมีกี่คนที่สังเกต ต้นขนุนลูกดก (12) นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสขึ้นไปนมัสการวัดพระธาตุดอยสุเทพ เคยสังเกตเห็นต้นขนุนต้นนี้กันรึเปล่าจ๊ะ…  เป็นต้นขนุนอายุนับร้อยปีตระหง่านอยู่ข้างกันกับอนุสาวรีย์ช้างมงคลดอยสุเทพ ถ้าขึ้นไปถูกจังหวะเวลาก็จะได้เห็นต้นขนุนต้นนี้ออกผลเต็มต้นตามรูปเลยเชียว 17.00 น. กลับที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือเดินเล่นที่ไนท์บาซาร์

หรือถนนคนเดินวันเสาร์และวันอาทิตย์ตามอัธยาศัย

วันที่สาม : (Breakfast, lunch)  

09.00 น. หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เช็คเอาท์ ก่อนพาท่านไปนมัสการวัดบ้านเด่น (13) วัดเดียวที่ให้ท่านสักการะพระธาตุปีเกิดได้ครบทั้ง 12 ปีนักษัตรจากการจำลองเจดีย์ประจำธาตุต่างๆมาไว้ในที่เดียว 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่เขื่อนแม่งัด สมบูรณ์ชล ชิมเมนูปลาแม่น้ำรสเลิศนานาชนิด 13.00 น. พาท่านเยือนน้ำตกบัวตอง น้ำพุเจ็ดสี (14) น้ำตกบัวตองได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกไม่ลื่น สามารถปีนเล่นได้เพราะเป็นน้ำตกหินปูน ส่วนน้ำพุเจ็ดสีนั้น เป็นต้นน้ำของแม่น้ำสำคัญใน อ.แม่แตง เกิดการสะท้อนหักเหของแสงจนทำให้เห็นเป็นสีรุ้งสวยงาม จึงได้ชื่อว่าเป็นน้ำพุเจ็ดสี 15.00 น. ส่งท้ายโปรแกรมกันด้วยการช็อปปิ้งของฝาก แคบหมูน้ำพริกไส้อั่วกันที่กาดวนัสนันท์  ที่นี่ ท่านยังสามารถถ่ายรูปเล่นกับรถคอกหมู รถบรรทุกขนาดใหญ่ในอดีตซึ่งปัจจุบันไม่พบใช้สัญจรอีกต่อไป จากนั้น ส่งท่านเดินทางกลับสนามบิน สถานีขนส่ง หรือสถานีรถไฟ ถือเป็นการจบทัวร์ 7 สิ่งมหัศจรรย์ คูณ 2 ด้วยความประทับใจ