เยอรมนี – ออสเตรีย – เชค – สโลวัค – ฮังการี 9 วัน นครมิวนิค – ซาลส์บวร์ก – เชสกี้ ครุมลอฟ คาร์โลวี – วารี

(1) วันแรก กรุงเทพฯ – นครมิวนิค (เยอรมัน) 11.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 2 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก ด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง 12.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยเที่ยวบินที่ TG 924 19.10 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองมิวนิค หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำคณะเดินทางโดยรถโค้ชเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ NH MUNICH MESSE HOTEL หรือระดับเดียวกัน

(2) วันที่สอง นครมิวนิค – ซาลส์บวร์ก (ออสเตรีย) – เชสกี ครุมลอฟ (สาธารณรัฐเชค)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนเยอรมัน-ออสเตรีย เข้าสู่ ซาลสบวร์ก เมืองโรแมนติคที่มีแม่น้ำซาลซัคไหลผ่านใจกลางเมือง ระหว่างเส้นทางผ่านชมทะเลสาบมอนด์เซ ที่ใช้เป็นฉากถ่ายทำตอนหนึ่งในภาพยนตร์ The Sound of Music ที่โด่งดังไปทั่วโลก นำคณะถ่ายภาพที่ระลึกหน้า บ้านพักโมสาร์ท ซึ่งเป็นนักดนตรีเอกที่ชาวออสเตรียนภาคภูมิใจปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงหลักฐานประวัติศาสตร์ ของครอบครัวโมสาร์ท พร้อมชม อนุสาวรีย์โมสาร์ท ชมความงดงามของ จัตุรัสวิหารหลวง ศิลปะแบบบารอคในยุคต้นนำคณะข้ามสะพานสู่ฝั่ง เมืองเก่าที่ถนนเกไทรเด้ ถนนช้อปปิ้งที่มีการตกแต่งไว้อย่างงดงามอีกเส้นหนึ่งของโลก ซึ่งตกแต่งด้วยลวดลายของเหล็กดัดไว้อย่างงดงาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองซาลสบวร์ก เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ คุร์มลอฟ มรดกโลกอีกเมืองหนึ่งของสาธารณรัฐเชค ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางด้านการปกครอง การพิพากษาคดีและการจัดเก็บภาษี ต่อมาในปี ค.ศ.1963 ได้รับการประกาศว่าเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์และภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของประเทศ ในตอนปลายปี ค.ศ. 1989 ได้มีการบูรณะอาคารและปราสาทครั้งใหญ่โดยยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้อย่างน่าชื่นชม จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความสำคัญและโดดเด่นในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ทำให้องค์การยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนเมืองคุร์มลอฟให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1992 เชิญท่านถ่ายรูปที่ระลึกภายนอกของ ปราสาทคุร์มลอฟ ซึ่งเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีห้องต่างๆ ถึง 40 ห้อง ลานหน้าปราสาท 5 แห่งและอุทยานอีก 1 แห่งที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา ชมทัศนียภาพของตัวเมืองจากลานหน้าอุทยาน ภาพที่ท่านเห็นคือบ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อย หลังคาสีส้มเรียงรายกันเป็นกระจุกๆ เหมือนบ้านตุ๊กตาที่สวยงามยิ่งนัก ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ HOTEL OLD INN CESKY KRUMLOV หรือระดับเดียวกัน

(3) วันที่สาม เชสกี้ คุร์มลอฟ – คาร์โลวี วารี – กรุงปราก

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่คาร์โลวี วารี่ เมืองตากอากาศและเมืองน้ำพุร้อนที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของสาธารณะรัฐเชค มีน้ำพุร้อนที่ขึ้นชื่อถึง 12 แห่ง ซึ่งผู้คนนิยมไปพักผ่อนด้วยการอาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพ เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย อิสระให้ท่านได้เดินชมตัวเมืองบนถนนคนเดิน เนื่องจากเมืองนี้ไม่อนุญาตให้รถเล่นกลางเมือง อิสระให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพกับโรงละครของเมือง จากนั้นลัดเลาะแม่น้ำเท็ปปร้า ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งได้รับการยกย่องจากนักท่องเที่ยวว่าสวยงามเหมือนสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านชมโรงงานแก้วคริสตัลเจียระไน โมเซอร์ เป็นโรงงานผลิตเครื่องแก้วคริสตัลชั้นเยี่ยมของเชคที่ใช้กรรมวิธีในการผลิตไม่เหมือนใคร มีบรรดาราชวงศ์ และเจ้านายจากทั่วโลกจำนวนมากสั่งทำเครื่องใช้ที่ทำด้วยแก้วจากที่นี่หลังจากนั้นนำคณะ เดินทางกรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเชค ซึ่งตั้งอยู่ริมสองฟากฝั่ง แม่น้ำวัลตาวา ผ่านชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่แสนงดงามตลอดสองข้างทาง ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ HOTEL CROWN PLAZA หรือระดับเดียวกัน

(4) วันที่สี่ กรุงปราก – ปราสาทปราก – ชมเมือง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเข้าสู่ย่านศูนย์กลางของเมือง ชมโบราณสถานเก่าแก่อายุ กว่า 650 ปี ปราสาทปราก เริ่มสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ด้วยศิลปะแบบโกธิค ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลและที่พำนักท่านประธานาธิบดี ชมความใหญ่โตโอ่อ่าของตัวปราสาทและ มหาวิหารเซนต์วิตัส มหาวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งของชาวเชคทุกคน เนื่องจากเป็นที่เก็บพระศพ ของกษัตริย์พระองค์ต่างๆ แล้วยังเป็นที่เก็บมงกุฎเพชรที่ทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้กรุงปรากเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโบฮีเมียและจักรวรรดิโรมัน อันศักดิ์สิทธิ์ นำคณะเดินข้ามแม่น้ำวัลตาวาโดย สะพานชาร์ลส์ ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคตลอดราวสะพานมีประติมากรรมหินทรายรูปปั้นของนักบุญต่างๆ ถึง 30 รูป ซึ่งมีความงดงามและไม่ซ้ำแบบ สัมผัสเหล่าศิลปินที่นำผลงานมาแสดงอยู่ริมสองข้างสะพาน เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะเดินชมย่าน จัตุรัสเมืองเก่าสตาเรเมสโต สถานที่นัดพบของชาวปราก บริเวณโดยรอบล้วนเป็นอาคาร และวิหารเก่าแก่อายุกว่า 600-700 ปี ที่มีความงดงามโดดเด่น จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้ป็นมรดกโลก ชม อนุสาวรีย์ยานฮุส ผู้นำฝ่ายปฏิรูปศาสนาซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกนอกรีต ถูกเผาทั้งเป็นโดยผู้ปกครองของฝ่ายคริสต์ศาสนจักรโรมันคาทอลิค และ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ที่ทุกๆ 1 ชั่วโมงจะมีตุ๊กตาสาวกพระคริสต์ (12 Apostles) ออกมาเดินผ่านหน้าต่างเล็กๆ ด้านบน หอคอยจนครบ 12 องค์ บริเวณใกล้เคียงกันนี้ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวยิวที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป อิสระช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึกพื้น เมืองน่ารักสไตล์เชค และโบฮีเมียนที่มีให้เลือกมากมาย เช่น เครื่องแก้วสีต่างๆ ที่ประดับด้วยเงิน, ตุ๊กตาหุ่นกระบอก, งานผ้าปัก รวมถึงชิ้นงานแกะสลักต่างรูปแบบ ฯลฯ ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ HOTEL CROWN PLAZA หรือระดับเดียวกัน

(5) วันที่ห้า กรุงปราก – บราติสลาวา (สโลวัค) – บูดาเปสต์ (ฮังการี) – ล่องแม่น้ำดานูบ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำคณะออกเดินทางสู่กรุงบราติสลาวา นครหลวงแห่งสาธารณรัฐสโลวัค เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสโลวัค เป็นที่ตั้งของรัฐสภา มหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ รวมทั้งโรงละคร และสถาปัตยกรรม เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะชม ปราสาทแห่งกรุงบราติสลาวา จากด้านนอก ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาคาร์เบเธียนเหนือลุ่มแม่น้ำดานูบ ตัวอาคารมีหอคอยสูง 80 เมตร ทั้ง 4 ด้าน ผสมผสานไปด้วยศิลปะแบบกอธิค เรอเนสซองส์ และบาร็อค จากนั้นเที่ยวชมเมืองในเขตจัตุรัสใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี อิสระให้ทุกท่านได้เก็บภาพประทับใจก่อนอำลาเมือง นำคณะเดินทางข้ามพรมแดนไปยัง สาธารณรัฐฮังการี บนเส้นทางที่มีธรรมชาติงดงาม มากด้วยศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ สัมผัสชีวิตผู้คนในชนบทชาวฮังกาเรียน สู่ กรุงบูดาเปสต์ ซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออสโตร-ฮังกาเรียน เมืองที่มีแม่น้ำดานูบไหลผ่านกลางเมืองซึ่งแบ่งเป็นสองฝั่งคือฝั่งที่อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของประวัติศาสตร์ “บูดา” และฝั่งที่หรูหราล้ำหน้าสมัยใหม่ด้วยวิทยาการ “เปสต์” อันเป็นที่มาของชื่อเต็มของเมืองหลวงแห่งนี้ นำคณะขึ้นสู่ เนินเขาเลิร์ท ชมทัศนียภาพโดยรอบของกรุงบูดาเปสท์ และแม่น้ำดานูบ บนความสูง 750 ฟุต อิสระให้เดินเล่นตามอัธยาศัย หลังจากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือเพื่อลงเรือล่อง แม่น้ำดานูบ แม่น้ำสายโรแมนติค มนต์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของธรรมชาติและ อาคารรัฐสภา เป็นอาคารแบบนีโอโกธิคที่โดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ตลอดจนอาคารบ้านเรือนและความเป็นอยู่ของผู้คนสองฟากฝั่งแม่น้ำดานูบในยามบ่ายของ กรุงบูดาเปสต์ ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ลิ้มลองซุปเข้มข้นที่มีสีแดงสดของพริก ปาปริก้า” เพลิดเพลินกับเสียงเพลง และการแสดงพื้นเมืองชาวแมกยาร์ พักค้างคืน ณ HOTEL NOVOTEL BUDAPEST CONGRESS หรือระดับเดียวกัน

(6) วันที่หก บูดาเปสต์ – ชมเมือง – กรุงเวียนนา (ออสเตรีย)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำคณะเดินทางผ่านชุมชนโรมันโบราณขึ้นไปยัง Castle Hill ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับคฤหาสน์ของกษัตริย์ และโบราณสถาน ซึ่งยังมีร่องรอยบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต ชม ป้อมปราการฟิชเชอร์แมนบาสเตียน ที่สะท้อนประวัติศาสตร์การสร้างชาติฮังกาเรียน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมง ผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมืองในตอนที่ถูกพวกมองโกลรุกราน ในปี ค.ศ. 1241-1242 และบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์แมทเทียส เป็นโบสถ์สำคัญของเมืองที่ได้รับการ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ที่โดดเด่นด้วยยอดโบสถ์อันงดงาม เคยใช้เป็นที่จัดพิธีสวมมงกุฎแด่กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์และ อนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่น ปฐมกษัตริย์ของชาวแมกยาร์ นำคณะชม จัตุรัสวีรบุรุษ สถานที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรบุรุษผู้กอบกู้ชาติ และยังใช้ในพิธีสวนสนามของทหารฮังการี จากนั้นนำชมความยิ่งใหญ่อลังการของ มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น ใจกลางเมือง ก่อนนำคณะเข้าสู่ ถนนวาซี่ แหล่งช้อปปิ้งที่มีสินค้า และของที่ระลึกพื้นเมืองมากมาย เช่น ผ้าลูกไม้, ผ้าปัก, เครื่องแก้ว, ไข่ระบายสี และสินค้า Brand name ที่มีชื่อของฮังการีภายใน ห้างสรรพสินค้าหรูหรา เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะเดินทางสู่ กรุงเวียนนา นครหลวงแห่งศิลปะและดนตรี เมืองหลวงอันเก่าแก่กว่าพันปีของออสเตรีย และยังเคยเป็นศูนย์กลาง ของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี นำคณะเที่ยวชม นครเวียนนา โดยเริ่มต้นจาก ถนนวงแหวน Ring Strasse ผ่านชม โรงอุปรากร, พระราชวังฮอฟบวร์ก, อาคารรัฐสภา, ศาลาว่าการ, มหาวิทยาลัยเวียนนา, โบสถ์ประจำเมือง, ศาลสูง แวะเดินเล่นใน สวนสาธารณะสตัดปาร์ค ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์ โยฮันสเตร้าส์ เจ้าของบทเพลงอมตะ “By The Beautiful Blue Danube” ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ HOTEL EVEN PARAMID VIENNA หรือระดับเดียวกัน

(7) วันที่เจ็ด กรุงเวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – เบิร์ชเทสกาเด้น (เยอรมัน)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำคณะเข้าชม พระราชวังเชินบรุนน์ พระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮับสบูร์กที่ถูกสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 โดยพระประสงค์ของ พระนางมาเรียเทเรซ่า จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมัน ที่ตั้งพระทัยว่าจะสร้างพระราชวังแห่งนี้ ให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ในกรุงปารีส สัมผัสความงามอันวิจิตรตระการตาภายในห้องต่างๆ กว่า 20 ห้อง (Imperial Tour) อาทิเช่น ห้องทรงงาน, ห้องบรรทม, ห้องเกรทแกลเลอรี, ห้องบิลเลียด, ห้องไชนีสรูม ฯลฯ จากนั้นชื่นชมอุทยานสวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่จัดแต่งไว้อย่างร่มรื่นงดงาม เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะสู่ ถนนคาร์ทเน่อร์ ย่านถนนการค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ มากมาย ชม วิหารเซนต์สเตฟาน ซึ่งตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา เชิญท่านเลือกซื้อหาของฝากจากออสเตรีย อาทิเช่น เครื่องแก้วเจียระไน, คริสตัล ของที่ระลึกต่างๆ นั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ ชมวิถุชีวิตของผู้คนชาวเวียนนาตามอัธยาศัย หลังจากนั้นออกเดินทางสู่เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ 1 ใน 6 เส้นทางของเยอรมัน ที่เรียกขานกันว่าเส้นทางดิอัลไพน์โรด ในอดีตเมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของฐานบัญชาการพรรคนาซีใหญ่ ทางตอนใต้ ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ HOTEL WITTELBACH หรือระดับเดียวกัน

(8) วันที่แปด เบิร์ชเทสกาเด้น – ล่องเรือทะเลสาบโคนิก – กรุงมิวนิค – กรุงเทพฯ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบกษัตริย์ ทะเลสาบที่มีน้ำใสราวกับมรกต ทะเลสาบแห่งนี้เป็นดินแดนแห่งฟยอร์ด ที่งดงามที่สุดในประเทศเยอรมัน ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีแหล่งกำเนิดจากการละลายของกลาเซียบนยอดเขา ตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง ก่อให้เกิดทะเลสาบที่งดงาม และความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลกฟยอร์ดแห่งนี้มีความยาวกว่า 8 กิโลเมตร กว้างถึง 1,250 เมตร ลึก 190 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงกว่า 602 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นำท่านล่องเรือพลังงานไฟฟ้า ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1909 เพื่อไม่เกิดมลภาวะ เรือจะนำท่านล่องไปชมบรรยากาศแห่งฟยอร์ด จนถึงโบสถ์บาโธโลมิว อันเป็นเสน่ห์ของดินแดนแห่ง ฟยอร์ดนี้ เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทาง สู่กรุงมิวนิค เมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรีย ถือว่าเป็นหัวเมืองใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของเยอรมนี ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ BMW จากนั้นนำชม จัตุรัสมาเรียน เขตเมืองเก่าใจกลางเมือง ซึ่งมีสถานที่ตั้งของสถาปัตยกรรมที่คลาสสิครอบๆ อาทิ อาคารศาลากลาง โบสถ์ประจำเมือง ฯลฯ โดยเฉพาะจะมีนาฬิกาโบราณที่ตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ของทุกวัน พร้อมกับมีตุ๊กตาออกมาเต้นรำเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่มายืนเฝ้ารอชม จากนั้นอิสระ ให้ท่านเดินเล่นเพื่อเก็บบรรยากาศ หรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทาง เข้าสู่สนามบินกรุงมิวนิค 21.10 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสารบินไทย เที่ยวบินที่ TG 925 (9)

วันที่เก้า กรุงเทพมหานคร

13.00 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี….

หมายเหตุ กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ
จะยึดถือความปลอดภัย ตลอดจนผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ