>>>เชียงตุง ท่าขี้เหล็ก

ฟ้าสางที่เชียงตุง สวยงามมาก ภาพอย่างนี้หาชมยากครับ

สวัสดีครับ หลังจากเดินทางมานานแสนนาน วันนี้ผมก็มาถึง เชียงตุงจนได้ เมืองเชียงตุงนี้นับเป็นเมืองใหญ่ และ เป็นเมืองหลวงของ รัฐฉาน ประเทศพม่าเลย ครับ ผมมาถึงที่นี่ในช่วงเย็น ๆเมื่อมาถึงแล้ว ก็ เช็คอินเข้าที่พักก่อน ซึ่งที่พัก นั้นก็เป็นที่พักที่ดีที่สุดของที่นี่ ชื่อ นิวเชียงตุง ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับของเจ้าฟ้าเมือง เชียงตุง ซึ่งเรียกกันว่า หอคำ เมื่อ เข้าที่พักแล้ว ก็ออกเดินท่องเที่ยวต่อในช่วงเย็นๆ โดยจุดมุ่งหมายของผมนั้น คือ หนองตุง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ โรงแรมที่พักนั่นเอง

หนองตุงนี้ ตามความเชื่อนั้น เคยเป็นสถานที่ ที่ พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมา ที่เมืองเชียงตุง และ ได้มาล้าง บาตร ที่หนองตุง แห่งนี้ หนองตุงเป็น หนองน้ำขนาดใหญ่ เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงตุง เลย ที่น่าสนใจ คือหนองน้ำ แห่งนี้ มีระดับน้ำคงที่ตลอดเวลา ไม่ว่า จะหน้าร้อน หรือ แล้ง ระดับน้ำในหนองน้ำไม่เคยลดลงเลย

ทิวทัศน์ริมหนองตุง มองเห็น เมืองเชียงตุง ที่มี ขุนเขา สูงลดหลั่นเป็นฉากหลัง สวยงามน่าประทับใจครับ

รอบๆหนองตุง เราจะมองเห็น บ้านเรือนของชาวบ้าน หลังน้อยใหญ่ เรียงรายเต็มไปหมด ในอดีตนั้น หนองตุงนี้ เคยมีร้าน อาหารสร้างยื่นออกมา ในหนองตุง มากมาย แต่ในเวลาต่อมา ทางราชการได้สั่งห้าม จึงทำให้หนองตุง ได้กลับสภาพเป็นดังเดิม เราจึงได้เห็นภาพ หนองตุง ยังคงความสวยงามอยู่เฉกเช่นปัจจุบัน

หลังจากรับประทานอาหารเย็น เรียบร้อย เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ 12 สิงหาคม ผมและคณะ ได้รวมตัวกัน บริเวณ ชั้นล่างของที่พัก เพื่อร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยด้วย เพราะ โทรทัศน์ของทางโรงแรมสามารถ รับ สัญญาณ ของไทยได้ เราจึงได้จุดเทียน พร้อม ๆ กับที่สนามหลวงด้วย เพื่อเป็นการ แสดงถึงความจงรักภักดี ต่อ สถาบัน พระมหากษัตริย์ นับเป็นความภาคภูมิใจ ที่สุด ไม่ว่าบนแผ่นดินของประเทศใด หากมีประชาชน ชนชาติไทย ที่นั่น จะยังคงมีความจงรักภักดี ต่อ สถาบัน พระมหากษัตริย์ไทย และ ผมมั่นใจว่า ในอีกหลายๆ ประเทศ จะมี เสียงเพลง สรรเสริญ พระบารมี ดังขึ้น พร้อมๆ กับ เสียงเพลงสรรเสริญพระบารมี ในเชียงตุง ของพวกเรา

 

ขึ้นชื่อว่าคนไทย อย่างไรก็ไม่ลืม พระคุณ พระมหากษัตริย์ และ แผ่นดิน

ในรุ่งเช้าของวันใหม่ ผมตื่นนอนตั้งแต่ เช้ามืด เพื่อมาชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่คงเช้าเกินไป ตอนแรกก็ว่าจะนอนต่อ แต่ เอาก็เอา รอหน่อยดีกว่า เมื่อ มายืนที่ระเบียงห้อง ก็รู้สึกได้เลยว่า ภาพที่ปรากฏให้เห็นนั้น หาชมยากครับ ดาวดวงน้อยๆ สาดแสงระยิบระยับเต็มฟ้า อีกไม่นานนัก ก็เริ่มมีแสงอาทิตย์ สาดส่อง ขึ้นมาทีละนิดๆ สวยงามมากครับ เพราะ ท้องฟ้า ค่อยๆเปลี่ยนสีไปตามช่วงเวลา ผมพยายามเก็บภาพ ได้มาหลายภาพ แต่ก็อยากให้ได้มาเห็นด้วยตนเองครับ

ฟ้าสางแต่ละเวลา สวยต่างกันไป ภาพนี้ถ่ายจาก ระเบียงโรงแรม นิวเชียงตุง ครับ

โรงแรมนิวเชียงตุง โรงแรมที่ดีที่สุด ของ เชียงตุง

เมื่อเวลาประมาณ หก โมงเช้า ผมก็ อาบน้ำแต่งตัว แล้วออกไปเดินเล่น บริเวณใกล้ๆ โรงแรม ได้ไปชมวัดกลางเวียง ซึ่งเป็น วัดที่ตั้งอยู่กลาง วงเวียน ในเมือง เชียงตุง ก็ดูแปลกไปอีกแบบ เพราะ ตัววัดนั้น เปรียบเสมือน เกาะกลางวงเวียน มีทางเข้า 4 ด้าน ซึ่งใครจะเข้าไปวัดนี้ ก็ต้องข้ามถนนเอาครับ

 

วัดกลางเวียง อยู่ใจกลางวงเวียน ในเมือง

เมื่อเดินท่องเที่ยวรอบๆ ที่พัก แล้ว ก็กลับมารับประทานอาหารเช้า แล้วจึงเดินทางต่อ สำหรับเช้านี้ เรามีรายการไปตะลุย ตลาดเช้ากัน ตลาดเช้าของที่นี่ น่าเดินกว่าทุกๆที่ ทั้ง เมืองลา และ เชียงรุ่ง เพราะ ที่นี่ มีการแบ่งส่วน ของแห้ง และ ของสด เอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน และ ตัวตลาดมีขนาดใหญ่ พอสมควร ทำให้การเดินตลาดที่นี่นั้นสนุกสนานดียิ่งนัก สินค้าที่นี่ จะมาจาก จีน พม่า และ ไทย เราเองก็มองหาแต่สินค้าจาก พม่า และ จีนครับ ส่วนใหญ่ที่ขายดีเอามากๆ เห็นจะเป็น ซะนะคา เครื่องสำอาง ลักษณะเหมือนแป้ง ที่สาวพม่า ชอบทาหน้าเป็นวงๆ นั่นแหละครับ เพราะ ราคาถูก แถมยังใช้ดีอีกต่างหาก ดีไม่แพ้เครื่องสำอาง แพงเลยนะจะบอกให้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ความเย็นด้วย บางครั้ง ผมเห็นบางคนซื้อไปทาเวลา เที่ยวทะเล ครับ ก็แล้วแต่จะประยุกต์ใช้ ส่วนผู้ชายอย่างผม ก็เดินดูอย่างอื่นไปเรื่อยเปื่อย พลางก็สอดส่ายสายตามองหา ร้าน โรตี ขึ้นชื่อของที่นี่ โรตี ที่ว่านี้จะเป็นโรตี โอ่ง ซึ่ง เขาจะนวดแป้ง ให้เป็นแผ่นแล้ว นำไปแปะในโอ่ง ซึ่งมีการนำถ่านร้อนๆ ไป ใส่ไว้ เมื่อตัวโอ่งร้อนแล้ว แป้งก็จะ สุกกรอบดีได้ที่ แล้วจึงนำมาปรุง ด้วย น้ำตาลนม กล้วย ฯลฯ แล้วแต่จะสั่ง เสริฟร้อนๆ กับ กาแฟ และ ชา อร่อยเป็นที่สุด ผมแอบซื้อมาทาน บนรถ อีกหลายชิ้นเลยครับ

 

บรรยากาศตลาดเช้า เชียงตุง และ โรตี โอ่งสุดอร่อย ที่ตลาดนี้

หลังจากเดินชมตลาดอย่างสนุกสนาน เราก็เปลี่ยนรถเป็นสองแถวท้องถิ่น เพื่อขึ้นเขาเที่ยวชม สิ่งน่าสนใจต่อ รถพาเรา ลัดเลาะ ตามซอกซอยเล็กๆต่าง ขึ้นสุ่เนินเขาเตี้ยๆ เพื่อไป นมัสการ พระพุทธรูป ยืนชี้นิ้ว ซึ่งนับเป็นทต้นแบบ ของพระพุทธรูปยืนชี้นิ้ว ที่เมืองลา ด้วยความเชื่อที่ว่าในอดีต หลังจากพระพุทธเจ้า ทรง ล้างบาตร ในหนองตุง เสร็จ พระองค์ ทรง ชี้นิ้วมายังเมือง เชียงตุง นี้ แล้วตรัสว่า เมืองนี้จะเจริญ จึงมีการสร้างพระพุทธรูปยืน ชี้นิ้ว ไว้บริเวณยอดเขาแห่งนี้ เพื่อ เป็นสัญลักษณ์ แทน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระพทุธรูปยืน ชี้นิ้ว องค์ใหญ่ หันหน้าไปทางหนองตุง

จากนั้น ผมก็เดินทางต่อ ไปยัง อีกส่วนหนึ่งของภูเขา ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก เพื่อไปชมต้นยาง ที่ใหญ่ที่สุด ในเชียงตุง ต้นยางนี้มีอายุหลายร้อยปีมาแล้ว ในอดีต เคยใช้เป็นสถานที่ แขวนคอนักโทษ อีกด้วย บรรยากาศแถบๆนี้ เย็นสบายดี และยังมีพรรณไม้ร่มรื่นพอสมควร ทำให้เราได้นั่งพักกันสักนิดก่อนจะเดินทางลงจากเขา

 

เห็นได้ถึงความสูง ใหญ่ของลำต้น ต้นยางนี้

เมื่อชมทัศนียภาพ บนเขาเรียบร้อย ก็นั่งรถ ลงมาในเมือง เชียงตุง เพื่อเที่ยวต่อ รถสองแถวพาผมมาส่งบริเวณ ในเมือง แถบๆ วัดกลางเวียง และ โรงแรม นิว เชียงตุง จากนั้น คณะ ของเราก็เดินต่อ ไปตามทางเดิน ขึ้นเนิน เล็กน้อย เพื่อไปชม วัดเชียงยืน

วัดเชียงยืน วัดของชาวไทยใหญ่ ที่มีขนาดใหญ่ พอสมควร ภายในอุโบสถ นั้น แต่งแต้ม ด้วย สี โทนแดง เลือดนก และ ตกแต่ง ด้วย ลวดลายสีทอง ภายใน อุโบสถนั้น ค่อนข้างมืดเสียหน่อย จึงทำให้ถ่ายภาพยากสักนิด แต่ก็สวยงามมากครับ เราก็ได้กราบนมัสการ พระพุทธรูปภายในอุโบสถ แล้วจึงออกเดินต่อ

 

ความงดงามภายในอุโบสถ ของวัดเชียงยืน

ตัววัดเชียงยืน หลังคาสีแดง เด่น ในภาพ จะเห็น หญิงชาวพม่า ที่ถือศีล จะแต่งกายแบบนี้

จากวัดเชียงยืน เดินถัดมาสักนิด จะเป็นวัด จอมคำ ซึ่งเป็นวัดใหญ่ ตั้งอยู่บนยอดเนินเขา มีเจดีย์ใหญ่ ซึ่งสามารถมองเห็น แต่ไกลตั้งแต่หนองตุงเลย ผมเดินขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อเข้าชมวัด จอมคำ พอดีวันนี้มีการทำบุญ เลี้ยงพระกันด้วย เลยได้เห็น ผู้ถือศีล มาที่วัดกัน ส่วนใหญ่จะเป็นสตรี ระหว่างทางก็เห็นพระสงฆ์ เดินกลับจากการ บิณฑบาตร ซึ่งดูจะกลับมาที่วัด สายสักนิด เมื่อมาถึงวัดจอมคำ ก็ นั่งพักสักนิด ก่อนเดินชมโดยรอบ

 

องค์ สถูปเจดีย์ ขนาดใหญ่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เอาไว้

ถายในอุโบสถ โอ่โถง สวยงาม

มองจากด้านหน้า อุโบสถ แสงที่ส่องเข้ามา กระทบกับ สีทอง สวยงามยิ่งนัก

หลังจากที่เดินวนรอบพระเจดีย์ ถึง 3 รอบแล้ว ก็เข้ามาในอุโบสถ ซึ่ง ที่นี่จะ มีอุโบสถ ที่ใหญ่กว่า วัดเชียงยืน แต่มีการตกแต่ง คล้ายคลึงกัน กล่าวคือ ใช้สีพื้นโทนแดง เลือดนก ตัดกับลวดลาย สีทอง มีการประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ ท่ามกลาง พระพุทธรูปองค์เล็กๆ รายล้อมไว้ ซึ่ง จะแปลกกว่าเมืองไทยครับ แต่ก็นับ เป็นเอกลักษณ์ ของพม่าเขา

ผมใช้เวลาหาภาพสวยๆ มุมสวยๆ อยู่เสียนาน ในที่สุดก็มาประทับใจด้านหน้า อุโบสถ ซึ่งเมื่อมองเข้าไปนั้น จะเห็น แสงที่ลอดเข้ามาจากช่องหน้าต่าง กระทบกับสีทองสวยงามมากครับ

ในที่สุด เวลาก็ล่วงเลยมาถึง ช่วงเที่ยงๆ นั่นคือสัญญาณ ที่บอกให้เรารู้ว่า ถึงเวลาต้องอำลาเมืองเชียงตุง เสียแล้ว เพราะ ระยะทางที่ต้องเดินทางต่อ สู่ท่าขี้เหล็ก นั้น ไกลเสียเหลือเกิน และแล้ว ก็ต้องจำใจ จำจาก เชียงตุงด้วยความเสียดาย ซึ่งแท้จริงแล้ว ผมยังอยากเก็บภาพ วิถีชีวิต ของชาวเมืองเชียงตุงมาฝากอีกมาก น่าเสียดายครับ สำหรับวันนี้ คงต้องลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

อ่านสกู๊ปท่องเที่ยว เจียงฮาย – เมืองลา

อ่านสกู๊ปท่องเที่ยว เชียงรุ่ง – กันหลั่นป้า