>วัดไชยวัฒนาราม

  1. ปรางค์ประธาน ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของพื้นที่ ฐานประทักษิณ ซึ่งฐานประทักษิณ ได้ยกสูงขึ้นมา จากพื้น 1.5 เมตร มีลักษณะเป็นปรางค์ จัตุรมุข(มีมุขยื่นออกมาทั้ง4ด้าน) ในส่วน ของมุขด้านตะวันออก จะเจาะมุขทะลุเข้าสู่เรือนธาตุ ซึ่งภายในจะประดิษฐาน พระพุทธรุปนั่ง (ปัจจุบันไม่พบแล้ว) ยอดขององค์ปรางค์ ทำเป็นรัดประคดซ้อนกัน 7 ชั้น แต่ละชั้น เป็นลวดลาย ใบขนุน กลีบขนุน ส่วนบนสุดเป็นทรงดอกบัวตูม ปรางค์แบบนี้ มีลักษณะเหมือน ปรางค์ในสมัย อยุธยาตอนต้น ซึ่ง วัดไชยวัฒนารามนั้น สร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง จึงเปรียบเสมือนการ นำ เอา รูปแบบของอยุธยาตอนต้น กลับมาใช้ใหม่ก็ว่าได้
  2. ปรางค์บริวาร คือปรางค์องค์เล็กลงมาที่อยู่รายล้อม ปรางค์ประธาน มีทั้งหมด 4 องค์ ลักษณะจะ เพรียวกว่า ปรางค์ ประธาน
  3. เมรุ คืออาคารทรงยอด แหลมที่อยู่รายรอบระเบียงคด ทั้ง 8 ทิศ ภายในคูหาจะประดิษฐาน พระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางมารวิชัย เอาไว้ ที่เมรุทิศ เมรุละ 1 องค์ เมรุมุม เมรุละ 2องค์ ภายในคูหา มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง หลงเหลือร่องรอยอยู่เล็กน้อย
  4. ระเบียงคด คือส่วนที่เชื่อมต่อ ระหว่างเมรุแต่ละเมรุเอาไว้ โดยรอบฐานประทักษิณ ซึ่งแต่เดิมจะมีหลังคา รอบๆ ที่บริเวณ ระเบียงคด นี้ จะมีพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ รวมทั้งหมด 120 องค์ แกนในทำจากไม้ พอกปูนทีละชั้นจนได้สัดส่วน ส่วนนิ้ว ใช้โลหะสำริด ดัดขึ้นรูป ปัจจุบันเหลือที่ยังมีพระเศียร อยู่ 2 องค์
  5. พระอุโบสถ อยู่ทางด้านทิศตะวันออกนอก ระเบียงคด มีซากพระประธานปางสมาธิประดิษฐานอยู่ บน ฐานชุกชี สถาพปัจจุบัน เหลือเพียงฐานเสาอุโบสถ และ รอย ฐานเสมา รอบๆ
  6. ภาพปูนปั้น อยู่บริเวณด้านนอกของเมรุทั้ง 8 องค์ จะเป็นภาพเกี่ยวกับพุทธประวัติ

ผมหวังว่าใครที่ได้เดินทางไปชมวัดนี้ จะเห็นคุณค่า ที่มากมายจนประเมิณค่ามิได้ จากสถานที่แห่งนี้ ผมเองพอดีมี เวลาน้อย จึงได้แต่เก็บภาพมาได้เพียง สองสามภาพเท่านั้น เพราะต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก่อนค่ำ แต่สัญญาครับจะ นำเสนออีกครั้งแน่นอน คอย พบกับ scoop แบบเต็มๆ ได้เลยครับ พอดี พอมีเวลาเลย ร่างแผนที่และรูปประกอบ มาฝากครับ จะได้เข้าใจกันง่ายขึ้น ใครๆ ที่วันหยุดนี้ว่าง ลองไปที่นี่ดูครับ ไปตอนกลางวัน จะรู้สึกว่าที่นี่มีพลังของความ ยิ่งใหญ่ในอดีตหลงเหลืออยู่ ไปตอนเย็น – มืด จะพบกับมนต์เสน่ห์ ที่งามจับใจริมฝั่งเจ้าพระยาครับ ไปก่อนนะครับ….