วิหารพระพุทธ เคียงคู่กับ องค์พระธาตุลำปางหลวง
สวัสดีครับวันนี้ ผมขอ พาทุกท่านไปเยือนเมือง รถม้า พอเกริ่น แค่นี้ ทุกๆท่านคงทราบดีว่า ผมจะพาไปที่ใด ลำปาง นั่นเองครับ ลำปางนั้น นับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าท่องเที่ยวอย่างมาก อีกทั้งยังมีวัดที่สวยงามมากมาย ทั้งวัดไทย และ วัดพม่า
สำหรับวันนี้ ผมจะพาท่านไปเที่ยวชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองลำปาง นั่นก็คือ พระธาตุลำปางหลวง นั่นเอง พระธาตุลำปางหลวงนั้น เป็นพระธาตุ ประจำปีเกิด ของปี … อีกด้วย
วันนี้ผมเดินทางมาถึงวัดพระธาตุ ในช่วงเช้า บรรยากาศ สงบเงียบดี ผมเริ่มเดินผ่านเข้าทางหน้าวัด ผ่านซุ้มประตูโขง ซึ่ง จะสามารถสังเกต เห็น ความแตกต่างของ บันไดนาค ถ้าเปรียบเทียบกับ บันไดนาควัดอื่นๆ แล้ว ที่นี่มีความแตกต่าง กล่าวคือ จะมีนาค ทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน 2 ตัว ชูคอขึ้นกลางบันได อีก 2 ตัว จะออกจากปากตัว มกร หรือ มะกะระ สัตว์ ที่คล้าย จรเข้ มีงวง ซึ่ง จะอยู่ตรงปลายบันได
มกรคายนาค ที่ปลายบันได
เมื่อเดินขึ้นสู่ซุ้มประตูโขง ก็จะเห็นลวดลายปูนปั้น ที่งดงาม และละเอียดยิ่งนัก จะเห็น ปูนปั้นรูปตัวเหงา ซึ่ง คล้าย พญานาค อีกด้วย ทางเหนือ นิยมปั้นตัวนี้ ด้วยครับ
ลวดลายปูนปั้น บริเวณซุ้มประตูโขง
เมื่อเดินขึ้นมาเรียบร้อย เราก็จะพบ วิหารหลวง วิหารขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูป ศิลปะ ผสม ล้านนา และ สุโขทัย ซึ่ง แสดงให้เราทราบถึง ความสัมพันธ์ อันดีระหว่าง 2 อาณาจักร อีกด้วย พระเจ้าล้านทองนี้ จะประดิษฐานอยู่ในกู่ ทาสีทอง มีลวดลายปูนปั้น พญานาค และ ตัวเหงา อยู่เป็นชั้นๆ เราควรเข้ามากราบนมัสการ พระเจ้าล้านทองก่อน เป็นอย่างแรก ภายในวิหารหลวงนี้ บริเวณ แผงคอไม้สอง ซึ่งจะอยู่บริเวณ ระหว่างช่องเสา ของวิหาร จะมีแผงไม้เขียนภาพ เกี่ยวกับทศชาติชาดก ซึ่งจะมีทั้งหมด 24 แผ่นด้วยกัน นอกจากนั้น ยังมีบุษบก และ ตุงกระด้างตั้งเอาไว้ อีกด้วย
พระเจ้าล้านทอง ภายในวิหารหลวง
จากนั้นผมก็เดินไปทางด้านหลังของวิหารหลวง ซึ่ง ก็คือ องค์พระธาตุนั่นเอง พระธาตุนั้น จะ ตั้งอยู่ในรั้ว สัตติบัญชร ทองเหลือง ซึ่งที่รั้วนี้จะมีรุกระสุน ซึ่ง หนานทิพย์ช้าง ลอบเข้ายิงท้าวมหายศ ผู้ครองนครลำพูน ในอดีต ตัวองค์พระธาตุนั้น จะถูก บรรจุอยู่ด้านล่าง ซึ่งนับว่าเป็นรูปแบบของการประดิษฐาน พระธาตุที่ทางเหนือนิยมกัน
รูกระสุนที่หนานทิพย์ช้าง ยิงท้าวมหายศ
ตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้ง พระพุทธเจ้า เสด็จจาริกมาถึง ณ. ลัมภกัปนคร มี ลัวะคนหนึ่ง ชื่อ อ้ายกอน ได้นำ น้ำมะตูม น้ำมะพร้าว น้ำผึ้ง ใส่ ป้าง (กระบอกไม้ไผ)่ แล้วนำไม้ขะจาว มาทำคานหาบ มาถวายแด่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าได้ ประทาน พระเกศา แด่ ลัวะผู้นั้น ลัวะ ผู้นั้นจึงขุดหลุมเพื่อบรรจุพระเกศา ณ. ที่แห่งนี้ จึงเป็นที่มาของ ชื่อ ลัวะกอนลำป้าง ต่อมาเพี้ยน เป็นลำป้าง และ ลำปาง ในที่สุด
องค์พระธาตุนั้น เป็นรูปแบบ ของทางล้านนา ผสม กับ สุโขทัย กล่าวคือ มีฐานเหลี่ยมยกสูงแบบล้านนา แต่มี ยออดระฆัง กลมแบบ สุโขทัย รอบๆ บุด้วยทองจังโก๋ หรือ จังโก ทำจาก แผ่ดีบุก หรีอ ทองเหลือง ปิดทอง แล้วยึดเข้ากับเรือนพระธาตุ อีกที ยอดมีฉัตรทำด้วยทองคำ อีกด้วย
องค์พระธาตุ สวยงามตามกาลเวลา
เดินมาทางขวามือขององค์พระธาตุ มีวิหารน้ำแต้ม ซึ่ง มีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนัง มากมาย แต่ลบเลือนไปเสียหมด มีพระปะธานในวิหารคือ พระเจ้าสามหมื่นทอง ด้านหลังพระประธานมีภาพเขียนต้นโพธิ์ สีทองบนพื้นแดง สวยงามมาก
ทางด้านซ้ายมือของพระธาตุนั้น มีวิหารพระพุทธ ซึ่ง ประดิษฐาน พระเจ้าพระพุทธ พระพุทธรูปศิลปเชียงแสน ก่ออิฐถือปูน สวยงาม ภายในมีภาพเขียน ของรูปสัตว์ในวรรณคดี และ ป่าหิมพานต์ อีกด้วย ที่นี่ เป็นจุดที่ชม ภาพพระธาตุหัวกลับ ได้อีกจุดหนึ่ง นอกจากที่มณฑป พระพุทธบาท แต่จะมีขนาดเล็กกว่า เท่านั้นเอง
พระเจ้าพระพุทธ ในวิหารพระพุทธ
รูปพระธาตุหัวกลับ
ด้านข้างซ้าย ค่อนไปทางข้างหลัง จึงจะเป็น อุโบสถ ของวัด จะสังเกตุเห็นได้ว่าวัดทางเหนือ ของไทยนั้น ให้ความสำคัญกับ วิหารมากกว่าโบสถ์ เนื่องจาก วิหารสามารถประกอบพิธีต่างๆได้มากกว่านั่นเอง
เดินมาทางด้านหลังของพระธาตุ จะมีวิหารละโว้ ซึ่งมีพระพุทธรูปนาคปรค ศิลปะสมัย ละโว้ ประดิษฐานอยู่ ถัดไปอีกนิด จะมีช่องรางน้ำซึ่งหนานทิพย์ช้างได้เคยลอดเข้ามาลอบยิง ท้าวมหายศ แต่ปัจจุบัน นั้นทำใหม่เสีย เลยแคบลงกว่าเดิม ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆ ต้นขนุน ที่มีอายุ หลายร้อยปี
รางน้ำที่หนานทิพย์ช้างเคยลอดเข้ามา ภายในวัด
หนานทิพย์ช้างคือใคร ?
หนานทิพย์ช้าง คือ นายพรานช้างป่าคนหนึ่ง ซึ่งได้สมัครพรรคพวก เข้าลอบโจมตีท้าวมหายศ ซึ่งตั้งค่ายอยู่ใน วัดพระธาตุลำปางหลวง แล้วลอบยิง ท้าวมหายศจนเสียชีวิต จากนั้น จึงตั้งตนเป็นพญาสุลวฤาไชย ปกครองนครลำปาง ซึ่งนับเป็นต้นตระกูลของ ณ.เชียงใหม่ นั่นเอง
นอกจากนั้น ในส่วนอื่นๆ ของวัดยังมี ต้นโพธิ์ ศรีลังกา ต้นลาน วิหารพระแก้วดอนเต้า ซึ่ง ผมขอยกยอด เอาไว้เล่าต่อไปในอนาคต แล้วกันนะครับ เพราะจะยิ่งยืดยาวไปกันใหญ่ สำหรับวันนี้ ผมคงต้องขอลาไปก่อนนะครับ แล้วผมจะกลับมาพาทุกท่านเที่ยวใหม่ นะครับ วันนี้ลาไปก่อนสวัสดีครับ