ภาพทับหลัง พระกฤษณะฆ่าคชสีห์
หลายๆท่านที่อาจเคยได้ท่องเที่ยว ตามปราสาทหินต่างๆ หรือมีความรู้เกี่ยวกับศาสนา ฮินดู บ้างคงจะเคยได้ยินชื่อของพระ กฤษณะ กันมาบ้างนะครับ โดยเฉพาะ ตามเทวาลัย ปราสาทหินต่างๆ มักจะมี ภาพ ตามหน้าบัน หรือทับหลัง ต่างๆ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ พระกฤษณะ อยู่มากมาย ในฐานะที่ผมเองเป็น ผู้ที่ชื่นชอบ การท่องเที่ยว ปราสาทหิน ( ศิลปะร่วมไทย ขอม ) จึงได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ และ อยากที่จะนำมาเล่าให้ทุกๆท่านได้อ่านกัน
พระกฤษณะ นั้นเป็น อวตาร ปางหนึ่งของพระ นารายณ์ จากทั้งหมด 10ปางด้วยกัน จะมีดังนี้
มัตสยาวตาร
กูรมารวตาร ( อ่านได้ในสกู๊ป เขาพระวิหาร หัวข้อ กวนเกษียณสมุทร ที่นี่ )
วราหาวตาร
นรสิงหาวตาร
วามนาวตาร
ปรศุรามาวตาร
รามจันทราวตาร
กฤษณาวตาร
พุทธาวตาร
กัลกยาวตาร
ซึ่งทั้ง 10 ปางนี้ล้วนแต่มีความเป็นมาและ มีเรื่องเล่ามากมาย สำหรับ พระกฤษณะ นั้น จะเห็นได้ว่าเป็นเพียง อวตาร ปางหนึ่งของ พระนารายณ์เท่านั้น ความเป็นมานั้น มีดังนี้
พระกฤษณะนั้น เป็น บุตรของ พระวสุเทพ(โอรสท้าวศูรราช) และ นางเทวกี (บุตรีท้าวอุคระเสน) ในนครมถุรา เมื่อหมดสมัยของท้าวศูรราช ท้าวอุคระเสนก็ปกครองเมืองมถุรา ต่อ แต่พญากงส์ บุตรของท้าวอุคระเสน ได้เป็นกบฏ ถอดท้าว อุคระเสน แล้วขึ้น ปกครองเสียเอง ครั้งเมื่อนางเทวกี ตั้งครรภ์ มีโหรทำนายว่า ทารกในครรภ์ นั้น จะเป็นผู้วิเศษมาเกิด พญากงส์ จึงจับ นางเทวกี และ พระวสุเทพขังเอาไว้ เมื่อครบกำหนดคลอดก็ ให้ฆ่าทารกเสีย ทำเช่นนี้ อยู่ 6 ครั้ง จนถึงครั้งที่8 เทวดาได้ย้าย ทารกไปไว้ในครรภ์ นางโหริณี มเหสีฝ่ายซ้ายของพระวสุเทพ ทารกนี้มีนามว่า พระ กฤษณะ มีกายสีดำ มีลักษณะของมหาบุรุษเพียบพร้อม พระวสุเทพจึง นำกุมารนี้ไปฝาก โคบาล ( ผู้เลี้ยงวัว ทำปศุสัตว์ ) ชื่อนันทะ และ นางยโศธา แล้วเอาทารกของนาง ยโศธา เปลี่ยนตัวแทน แต่พญากงส์ ทราบเข้าจึงสั่งให้ฆ่าทารก เสียทั้งหมด แล้วให้ ราชบุรุษ จับตัวพระกฤษณะมาให้ได้
นันทะ และ นางยโศธา จึงพาพระกฤษณะ ไปอยู่ที่ตำบล พฤนทาพน พระกฤษณะจึงเติบโต ท่ามกลางหมู่ โคบาล และ ให้ความอนุเคราะห์ เหล่าโคบาลนี้ ระหว่างนั้นได้แสดง ปาฏิหารย์มากมาย อย่างเช่น ยกภูเขา โควรรธนะ อ่านได้ที่สกู๊ปเขาพระวิหาร จนสามารถมีชัยเหนือพระอินทร์ จนได้ชื่อว่า อุเปนทร = ดีกว่าพระอินทร์ รวมถึง ปราบพญานาค กาลียะ ฯลฯ ญากงส์ พยายามที่จะสังหาร พระกฤษณะ หลายครั้ง ในที่สุด พญากงส์ เชิญให้ไปเล่น สรรพกิฬา ในเมือง มถุรา พญากงส์ได้วางตัวมวยปล้ำที่ เก่งที่สุดเอาไว้ เพื่อกำจัดพระกฤษณะโดยเฉพาะ แต่พระกฤษณะ สามารถเอาชนะได้ และได้ฆ่าพญากงส์ ตาย จากนั้นจึงพระเจ้า อุคระเสนขึ้นครองเมือง
พระกฤษณะ ปราบนาค กาลียะ
ครั้งหนึ่ง ได้กล่าวถึง พญานาคตนหนึ่ง ชื่อกาลียะ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ กาลินที แห่งเมือง ยมุนา แนวป่าวรินทวัน ได้มีเหตุการณ์ กล่าวถึง เมื่อ เหล่าเด็กๆ โคบาล พาวัวของตนไปกินน้ำ และ ลงอาบ ที่ทะเลสาบกาลินที พญานาคกาลียะ เกิดไม่พอใจ พ่นพิษใส่ทะเลสาบ ทำให้เหล่าโคบาล ตายไปเป็นอันมาก ร้อนถึงพระกฤษณะ ได้ทราบข่าวจึง มาช่วย ปราบนาคกาลียะ การต่อสู้ของ พระกฤษณะนั้น ยาวนานมาก ครั้งหนึ่ง พระกฤษณะ พลาดท่าถูกไฟของนาคกาลียะ สลบไป แต่ก็ยังสามารถ ฟื้นขึ้นมาต่อสู่ได้อีก พญานาคกาลียะ แผ่พังพานออกเป็น นับพัน เศียร ซึ่ง พระกฤษณะ ก็ได้ต่อสู้อยู่ท่ามกลาง เศียรนับพันนั้น ซึ่ง ถือกันว่า ท่วงท่าการต่อสู้ของพระกฤษณะนั้นเปรียบเสมือน ท่าร่ายรำที่สวยงาม ต่อมา พญานาคกาลียะ ได้เสียทีพระกฤษณะ ซึ่งในพระกฤษณะกำลังจะปลิดชีวิต นาคกาลียะ นั้น นางพญานาค กัญญา ซึ่ง เป็นภรรยาของ นาคกาลียะได้มาร้องขอชีวิตเอาไว้ พระกฤษณะ จึงไว้ชีวิต แต่ห้ามนาคกาลียะ กระทำการใด ที่เป็นการ รบกวน ชาวโคบาล อีกเลย ดังนั้น รูปของพระกฤษณะ ปราบนาคกาลียะ นั้นมีปรากฏอยู่ บริเวณ ทับหลัง และ หน้าบัน ต่างๆ เนื่องจากท่วงท่ามในการต่อสู้ที่ว่ากันว่าสวยงามนั่นเอง จึงกลายเป็นที่นิยมทำกัน
ก็คงจะเป็นเกร็ดเล็กน้อยให้หลายๆท่านได้ มีข้อมูลความรู้ เพิ่มเติม นะครับ ในโอกาสต่อๆ ผมเองก็อาาาจจะนำเรื่องของเหล่าทวยเทพ ใน ศาสนาฮินดู มานำเสนอเพิ่มเติมอีกครับ วันนี้ ลาไปก่อน สวัสดีครับ