ปราสาท สด๊กก๊อกธม จ. สระแก้ว

ฉันเดินทาง มาไกลพอสมควร จนถึงจังหวัดสระแก้ว สุดชายแดนไทย – กัมพูชาแล้ว เพื่อมาเที่ยวชม ปราสาทหินแห่งนี้ ใครๆ ก็ถามกันว่า ที่ฉันเดินทางมานี้ คุ้มค่าหรือไม่ เพราะไกลพอสมควร อีกทั้ง ปราสาทหินแห่งนี้ ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ฉันไม่เคยลังเลที่จะตอบเขาเลย ” เพราะไม่ค่อยมีคนรู้จัก ฉันถึงต้องไป คนอื่นจะได้รู้จัก และ บอกต่อๆไป อีกหน่อย ที่นี่ ก็จะ เจริญ” คำตอบของฉันหลายๆ คนก็มองว่า ฉันท่าจะเพี้ยน แต่ฉันเอง ยังเชื่อมั่นว่า ฉันคิดถูก เพราะฉันได้ประจักษ์แจ้ง ในสิ่งนี้แล้ว
ปราสาทหินที่ฉันกล่าวถึงนั้น คือ ปราสาทหิน สด๊กก๊อกธม ปราสาทหินนี้ อยู่ระหว่างการบูรณะ ซ่อมแซม อย่างเร่งด่วน ไม่ใช่อะไรหรอกคะ เพราะว่ากำลังจะหมดสัญญาว่าจ้าง กับผู้รับเหมาแล้ว หลังหมดสัญญานั้น ทุนคงหมดไปด้วย การบูรณะนั้น ยากลำบากคะ เพราะ ต้องบูรณะแบบ อนัสติโลซิสต์ ซึ่ง กินเวลานานมาก แต่เมื่อทำสำเร็จ จะได้ความถูกต้อง มากที่สุดคะ


ฉนวนทางเดินสู่บาราย ด้านหน้าปราสาท มีเสานางเรียง หลงเหลืออยู่บ้าง

เมื่อฉันมาถึงที่นี่ หลายๆสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด มีการจัดการหลายๆส่วนดีขึ้น และ ยังมีอาคารนิทรรศการ เล็กๆ ให้ชมด้วย สวัสดีครับ ไม่มานานเลยนะครับ เสียงทักทายดังมาแต่ไกล กวาดสายตามองหาต้นเสียง ก็พบ ลุงคนหนึ่ง ที่ฉันจำได้ว่า ครั้งที่แล้วที่มาที่นี่ ลุงคนนี้ แต่งตัวโทรมๆ ขาย…..(ไม่ขอเอ่ยถึง แต่เป็นอาชีพสุจริต) แต่วันนี้ ทำไมเขาดูดี ขึ้นมาก เมื่อได้ถามไถ่ก็ทราบความว่า ตอนนี้ เขาเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นแล้ว ฉันไม่สงสัยเลย ว่าทำไมเขาจึงดูดีขึ้น เขาบอกว่า พอมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้น เขาจึง ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และ ได้ยกระดับ อาชีพตนเองในที่สุด เขามีทั้งเกียรติ และ ศักดิ์ศรี มากกว่าเมื่อก่อนมาก นี่แหละคะ ฉันจึงมั่นใจว่า ยิ่งคนมาเที่ยวที่ไหนมากๆ ที่นั่นยิ่งเจริญ คนหนุ่มคนสาว ไม่ต้องไปหางานทำในเมืองกรุง อีกด้วย หลังจากทักทายกันพอสมควร ฉันก็ให้ลุงพาเดินเที่ยวชมเสียเลย


บริเวณกำแพงแก้ว ที่บูรณะได้พอสมควร


ซุ้มโคปุระ ของ ระเบียงคด ทิศ ตะวันออก

จากที่ฉันเคยมานั้น หินหลายๆก้อนยังกองไม่เป็นระเบียบ แต่ตอนนี้ได้รับการจัดเรียงวาง จนเป็นระเบียบมากแล้ว ในบางส่วน ที่ไม่สามารถหาหินของจริงพบ ก็เริ่มทำหินทรายใส่แทนเข้าไป
ปราสาท สด๊กก๊อกธม นั้น สร้างซ้อนทับกัน ใน 2 ยุคสมัย จะสังเกต ศิลปะที่ควบคู่กันอยู่ 2 ยุค คือ ศิลปะแบบ คลัง และ บาปวน แต่ที่โดดเด่นกว่า คือบาปวน เพราะเป็นยุค ที่ใหม่กว่า ( ยุคไล่ๆ กันกับ ปราสาทหินพนมรุ้ง ) ในความจริงศิลปะ ขอม สามารถแบ่งได้ 10 – 15 ยุคเลยทีเดียว ปราสาทหินบางที่อาจมี ศิลปะที่ผสมผสานกันบ้าง เพราะการสร้างนั้น ใช้เวลานานนั่นเอง ลุงพาฉันเดินมาชม ส่วนของโคปุระ กำแพงแก้ว ที่ซึ่ง มีหน้าบัน และ ทับหลัง หลายๆชิ้นที่ยังสมบูรณ์ พอจะดูชมได้ ที่เด่นๆนั้น คือ หน้าบัน รูป พระนารายณ์ บรรทมสินธุ์ ซึ่ง ในปราสาท ขอม ตามความเชื่อ ฮินดูนั้น จะนิยมแกะสลัก เอาไว้แทบทุกปราสาท


พระนารายณ์บรรทมสินธุ์
หลายๆท่านคงเคยได้ยินคำว่า พระนารายณ์บรรทมสินธุ์ มาบ้าง เรามาเรียนรู้กันดีกว่าว่า เขาหมายถึงอะไร ครั้งหนึ่งพระวิษณุ ได้บรรทมเพื่อ บำเพ็ญตบะ อยู่เหนือหลังของ อนันตนาคราช (บิดาของเหล่าพญานาค) พระวิษณุในลักษณะบรรทมนี้เรียกว่า นารายณ์บรรทมสินธุ์ ดังในรูปเราจะเห็นเป็นภาพคน นอนตะแคงอยู่ หันศรีษะ ทางขวามือเรา จะเห็นเศียรพญานาค อยู่ลางๆนะคะ ในระหว่าง ที่พระนารายณ์บรรทมนั้น บังเกิดดอกบัว ขึ้นจากพระ นาภี (สะดือ) ในดอกบัวนั้นบังเกิด พระพรหม ( เห็นเป็นภาพเหมือนคน นั่งขัดสมาธิ บนดอกบัว) ขึ้น พระพรหม ไม่รู้ว่า บิดามารดา ของตนคือใคร ได้แต่บำเพ็ญตบะจนกล้าแกร่ง และ สร้างโลก รวมถึงสิ่งมีชีวิตขึ้น ทำให้เกิดเสียงรบกวน ปลุกพระนารายณ์ให้ตื่นจากบรรทม และเป็นเหตุให้ทั้งสองต่อสู้กัน เรื่องราวมีต่อีกยาวมากนะคะ ถ้าจะไห้เล่าคงลำบาก ฉันจึงขอยกยอดเอาไว้ก่อนนะคะ น่าเสียดายที่ทับหลังนี้นั้น ชำรุด ไปบ้างบางส่วน จึงไม่สามารถเห็นรายละเอียดได้มากนัก อ่านเรื่องพระนารายณ์ปางอื่นๆได้ที่นี่


อาคารบรรณนาลัย ที่ถูกแทนที่ด้วยหินทรายยุคใหม่ ขาดความสวยงามยิ่ง

จากโคปุระกำแพงแก้วนั้น เราสามารถเดินไปชม บารายเก่าแก่ ได้อีก บารายนั้นคือ บ่อน้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงปราสาท และ ชุมชนโดยรอบ นั่นเอง เมื่อเดินกลับมา ก็จะเข้าสู่ระเบียงคดด้านใน ซึ่งต้องผ่านโคปุระ (ซุ้มประตู ) อีกชั้น การเข้าสู่ระเบียงคดนั้น หมายถึงการ เข้าสู่ส่วนที่สำคัญ และ ศักดิ์สิทธิ์ ที่สุดของปราสาทแล้ว ด้านในเป็นที่ตั้งของ ปรางค์ ประธาน ซึ่งอยู่ในขั้นบูรณะของส่วนฐานราก มองเห็น ปั้นจั่นขนาดใหญ่กำลังทำงานกัน ย้ายหินก้อนต่างๆมาประติดประต่อ ให้เป็นปราสาท รอบๆปรางค์ประธานนั้น มีร่องรอยคูน้ำเกือบรอบองค์ปรางค์ นั่นแสดงถึง ปรางค์ประธานนั้น เปรียบเสมือน เขาพระสุเมรุ ( ศูนย์กลางของจักรวาล ตามความเชื่อฮินดู) ฉันเดินดูรอบๆบริเวณ ตอนนี้ บรรณาลัย(ห้องเก็บพระคัมภีร์ ) บรูณะใกล้สำเร็จแล้ว แต่ส่วนอื่นๆคงต้องรอกันต่อไป หนูๆ มาทางนี้มั้ย เสียงลุงเรียก มาเดี๋ยวลุงจะพาไปชม อะไร


อีกมุมของ โคปุระระเบียงคด

กองหินที่อยู่ระหว่างการทดลองประกอบ

ลุงพาฉันเดินมาชมกองหิน ที่อยู่ระหว่างการทดลองประกอบ เราสามารถเห็นรูปร่างของ ปรางค์ ประธานได้ ชัดเจนมากแล้ว เหลือแต่ยกไป ประกอบเท่านั้น พลางให้ฉันมองเห็นหน้าบัน พระศิวะนาฏราช ซึ่ง ชำรุดมาก เพราะฝีมือมนุษย์ น่าเสียดายจริงๆคะ


ภาพพระศิวะนาฏราช หรือ พระศิวะร่ายรำ เหลือเท่าที่เห็นคะ

ก่อนที่จะบูรณะปราสาท สด๊กก๊อกธมนั้น ตัวปราสาทได้รับความเสียหายอย่างมากจาก เหล่าหัวขโมย และ สงคราม ตามแนวชายแดน ของไทย – กัมพูชา จึงเป็นเหตุให้ร่องรอย อารยธรรมขอม ลบเลือนไปมากเลยคะ สด๊กก๊อกธม นั้น เป็นปราสาทหินที่ ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออก มีชื่อเรียกอีกชื่อแบบชาวบ้าน ว่า ปราสาท บ้านพร้าว ส่วนคำแปลนั้น สด๊กก๊อกธม เป็นภาษา เขมร แปลว่า ต้นกกที่ขึ้นรกในหนองน้ำใหญ่ คะ แต่จากคำบอกเล่าของชาวบ้านนั้น ก็ยังมิเคย มีใครเห็นต้นกก ในบริเวณนี้เลย อันที่จริงแล้วรายละเอียดมีมากมายคะ เพราะปราสาทหินนั้น มีเรื่องราวสลับซับซ้อน แต่ที่ฉันไม่ขอเล่าให้ฟังนั้น เพราะอยากให้ทุกท่าน ที่มีโอกาส ได้ไปเที่ยวชมกันเอง ได้ไปใช้บริการมัคคุเทศก์ ท้องถิ่น ได้ไปอุดหนุน สินค้าชาวบ้าน นั่นแหละคะ คือสิ่งที่ประเสริฐที่สุด คนไทยต้องช่วยคนไทยนะคะ … สวัสดีคะ