บันทาย สเรย
มาถึงที่นี่ ก็ประทับใจตั้งแต่ โคปุระ (ซุ้มประตู ทางเข้า) ซึ่งมีลวดลวยงดงามอ่อนช้อย โดยเฉพาะหน้าบัน ที่แกะสลักได้ ปราณีตบรรจง ที่นี่ เค้าว่ากันว่า สวยที่สุดในบรรดา ปราสาทหินทั้งหมด ในเขมร เพราะอะไรเหรอครับ
เพราะที่นี่ เป็นปราสาทหิน ซึ่ง สร้างด้วย หินทรายสีชมพู อ่อน แห่งเดียวในเขมร และยังมีการแกะสลักที่ เรียกได้ว่า ปราณีตที่สุดอีกด้วย หลังจากที่เดินผ่าน ซุ้มประตูหลังแรกเข้ามาแล้ว ก็จะเป็นทางเดิน ที่ทำจาก ศิลาแลง มีบรรณาลัย อยู่ทาง ด้านข้าง(ห้องสมุด ประมาณว่า เก็บคัมภีร์ ) ซึ่งก็สร้างได้ปราณีต เช่นกัน
จากนั้น เดินตรงเข้ามาสู่ ซุ้มประตู ชั้นกลาง ซึ่งตรงนี้ ก็เคยเป็นที่ประดิษฐาน ศิวลึงค์ ซึ่ง ปัจจุบัน เหลือแต่ฐาน ซึ่งทำเป็น รูปโยนี รอบข้างจะมี แผ่นหินทรายจารึก รายละเอียดของการสร้าง ปราสาทเอาไว้ เดินตรงต่อเข้าไป จะเห็น บาราย (สระน้ำ) อยู่รายรอบ ทั้งสองด้าน ที่เห็นแล้วชอบที่สุด น่าจะเป็น ลูกมะหวด (ที่เหมือน ลูกกรงระเบียง) เค้าทำได้กลมกลึงจริงๆ ดูเหมือน งาน สมัยใหม่เลยครับ แต่สมัยก่อนเค้าก็มีเครื่องกลึงนะครับ แต่ไม่ทันสมัยขนาดนี้
ผ่านบาราย เดินตรงดิ่งสู่ โคปุระ ชั้นในจะพบกับปรางค์ สามองค์ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สุดของที่นี่ จะรายล้อมด้วย ระเบียงคด ทั้งหมด แกะสลักและสร้างขึ้นจาก หินทรายสีชมพูทั้งหมด สวยงามมากครับ และยังคงความสมบูรณ์ มากอีกด้วย ผมใช้ เวลานานพอควร เดินสำรวจรอบๆ ดูภาพแกะสลักมากมาย ทั้ง หน้าบัน ต่างๆ รวมถึง นางอัปสรา (นางอัปสรที่เราเรียกกัน) ที่นี่สวยงามกว่าที่อื่น จริงๆครับ
อ้อ ลืมเล่าไปเลยครับ เมื่อเช้าผมตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 เพราะต้องรีบออกมาล่องเรือ ที่ โตนเลสาบ หรือ ทะเลสาบเขมร (ทะเลชุบศร)ในตำนานนั่นแหละครับ ตอนแรกๆก็คิดว่าคงไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ที่จริงแล้ว กว้างใหญ่มากครับ ยาวถึง150กิโลเมตร เลยครับ สุดลูกหูลูกตาเลยครับ แถมได้เห็นวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง เค้าด้วย น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ แต่ผมฝากเอาไว้นิดนึงครับ ใครที่ไปเที่ยวเขมร อย่าไปดูถูกคนที่นี่เค้านะครับ เค้าดีใจที่เรามาเที่ยว เราก็ต้องทำตัวเป็นนัก ท่องเที่ยวที่ดีด้วยนะครับ เราเป็นเพื่อนบ้านกัน ต้องรักกันไว้ครับ ถึงแม้ความเจริญเค้าจะตามเราอยู่ แต่เค้าก็มีชีวิตมี จิตใจ เหมือนเรานะครับ เราเองก็คงไม่ชอบถ้าใครมาดูถูกเรานะครับ ขอบคุณครับ….