อาคารพิพิธภัณฑ์ สถานแห่งงชาติน่าน สวยงาม ล้อมรอบด้วยต้น ลีลาวดี
สวัสดีครับ ทุกท่าน ผมนายเกริกเกียรติ เจ้าเก่ากลับมารายงานตัวครับ สำหรับเรื่องราวการเดินทางของผมในวันนี้ ผมจะพาทุกท่านไปเที่ยว จ.น่าน กันครับแต่จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ของการท่องเที่ยว จ.น่าน ครับ ผมเชื่อว่า หลายๆ ท่านอาจเคยมีโอกาส ไปเยือนจังหวัดนี้มาบ้างแล้ว แต่ผมก็ยังเชื่อว่า
มีหลายท่านที่พลาด การตื่นนอนแต่เช้า มาเดินเที่ยวในตัวเมือง
วันนี้ด้วยความตั้งใจจะสัมผัส บรรยากาศ ยามเช้า ของเมืองที่น่าอยู่แห่งนี้ ดังนั้น เวลา 5.00 น. เสียงนาฬิกาปลุก ก็ดังขึ้น พร้อมๆ กับเสียง มอร์นนิ่งคอลจากทางโรงแรม เป็นสัญญาณบอกว่า สีสันยามเช้า ของน่าน กำลังรอคอยผมอยู่ ผมไม่รีรอ เลยที่จะรีบแต่งตัว และ
คว้ากล้องออกเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวตัวเมืองน่าน ในทันที
เวลาประมาณ 5.30 ผมกำลังมองหา ร้านอาหาร ยามเช้า ที่ชาวเมืองนิยมกัน หรือ ไม่ก็ สภากาแฟ ซึ่งเชื่อว่าที่นี่ยังมีอยู่ และแล้วสายตาสองคู่ก็พบเข้าจนได้ ย่านนี้เป็น ย่านที่ชาวเมืองนิยม
มารับประทานอาหารเช้า พร้อมกับการดื่มกาแฟ ไปด้วย
มีร้าน กาแฟฮัวเฮงซึ่งยังชงกาแฟโบราณ อยู่ รสชาติดีมากเลยครับ มีไข่ลวกขายด้วย ร้านนี้มีข้าวแกงบริการ ทำให้ผม สบายท้อง ไปมื้อนี้ ตรงกันข้ามมีร้านเย็นตาโฟอีกหนึ่งร้าน
ซึ่ง ทั้งสองร้านนี้ สมเด็จพระเทพฯเคยเสด็จมาเสวย แล้ว
พระธาตุช้างค้ำ ยามเช้า สวยงามโดดเด่นกลางเมือง
หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย ผมก็เดินทางมายัง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ซึ่ง เช้าๆอากาศเย็นๆอย่างนี้ เดินเที่ยวได้สบายมากเลยครับ ตัววัดนั้น เปิดแล้ว ทที่วัดนี้ มีจุดเด่นตรง พระธาตุ ช้างค้ำนี่เอง ซึ่ง เป็นเจดีย์ ศิลปะ สุโขทัย สังเกตุได้จาก ที่ฐานของพระธาตุ นั้น ทำเป็นรูปช้าง ล้อมรอบ เพราะในอดีตนั้น น่าน ก็มีความสัมพันธ์ อันดี กับ สุโขทัย อยู่ไม่น้อย จากการพบศิลาจารึก กล่าวว่า วัดนี้ บรูณะโดยเจ้าเมืองน่าน ชื่อ พระยาพลเทพฤาชัย
แต่เดิมนั้น ชื่อวัดกลางเวียง เพราะตั้งอยู่กลางเมืองนั่นเอง ต่อมาจึงเรียกกันว่าวัดช้างค้ำตาม เจดีย์ที่อยู่ในวัด
องค์พระธาตุ ถ่ายภาพยามเช้าซึ่งยังไม่ปิดไฟ สวยงามดีครับ
ช้างปูนปั้นที่ล้อมรอบ องค์พระธาตุ มี 24 เชือกด้วยกัน
กู่ของเจ้าอนันตวรฤทธิ์เดช อยู่ตรงกลาง
เมื่อเดินไปด้านหลัง จะมีวิหาร พระเจ้าทันใจ และ มีกู่ บรรจุอัฐิของเจ้าเมืองน่าน ในที่นี้ มีกู่ของเจ้าอนันตวรฤทธิ์เดช ด้วย น่าเสียดายที่วันนี้ โบสถ์ยังไม่เปิด ผมเลยไม่มีโอกาสได้ถ่ายภาพของ พระนันทบุรี ศรีศากยมุนี มาให้ชมกันด้วย พระนันทบุรี ศรีศากยมุนี นั้น เป็นพระพุทธรุป ทองสำริดปางลีลา ซึ่งสร้างโดย พระเจ้างั่วฬารผาสุม กษัตริย์ องค์ที่ 14 แห่งราชวงศ์ ภูคามีพุทธลักษณะงดงามมากครับ จากวัดพระธาตุช้างค้ำผม เดินข้ามถนนมา ยัง วัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์นั้น ตั้งอยู่เยื้อง ๆ กับ วัดพระธาตุช้างค้ำ และ ตรงข้ามกับ พิพิธภัณธ์สถานแห่งชาติน่านด้วย
มองจากลานหน้าวัด สวยงามที่สุดเลยครับ
วัดภูมินทร์ นับว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียง ทีสุดของ จังหวัดน่าน เพราะมีเอกลัษณ์ โดดเด่นทาง สถาปัตยกรรม และ ยังมีภาพจิตรกรรม ที่งดงาม มากอีกด้วย วัดนี้เป็นวัดที่มี วิหาร แบบ จัตุรมุข กล่าวคือ มุขทั้ง4ด้าน ของวิหารนั้น มีขนาดยื่นออกมาเท่ากัน โดยบันไดทางเข้า ด้านทิศเหนือ และใต้ ทำเป็นตัวนาค จึงเหมือนวิหารนี้ อยู่บนตัวนาคทั้ง 2 นั่นเอง ภายในนั้น ตรงกลางของวิหาร มีพระพุทธรูป ปาง มารวิชัย ประดิษฐาน หันพระพักตร์ ออกไปทาง ประตูทั้ง 4 ทิศ โดยจะประดิษฐานบน ฐานชุกชีเดียวกัน และยังมีภาพเขียน จิตรกรรมฝาผนัง ฝีมือช่างสกุลน่าน ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ที่งดงามมากอีกด้วย ( มีภาพบางส่วนมีผู้หลังดี เขียนเพิ่มเติม แต่ฝีมือ ไม่สวยงามเท่า น่าเสียดายยิ่งนัก)
ภาพเขียนเหล่านี้ สามารถบ่งบอกได้ถึง วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ของชาวน่านในอดีตได้เป็นอย่างดี
ประวัตินั้น มีออยู่ว่า สร้างโดยเจ้า เจตบุตรพรหมมินทร์ แต่เดิม ชื่อวัดพรหมมินทร์
ในสมัย พ.ศ.2139 และบูรณะ ในสมัย เจ้าอนันตวรฤทธิ์เดช พ.ศ. 2410
บันไดนาค ด้านทิศเหนือ ( ที่เห็นเป็นช่องนั้น เชื่อว่าใครเดินลอดจะได้กลับมาเที่ยวน่านอีก)
นาค2ตัวที่รับวิหารเอาไว้
ซุ้มประตูวิหาร ทรงปราสาท ละเอียดงดงามไม่น้อย
บานประตูแกะสลักลาย ท้าวเวสสุวัน ละเอียดสวยงามมากครับ
น่าเสียดายที่ในช่วงเช้านั้น ภายในวิหารยังไม่เปิดไฟ จึง ไม่สามารถ ถ่ายภาพมาให้ชมได้ครับ แต่ก็ดีนะครับ
ท่านใดไม่เคยไปจะได้อยากไปชมด้วยตาตนเองไงครับเป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับการเดินเที่ยวชมเมือง น่าน ยามเช้า น่าสนใจไหมครับ การออกมาเที่ยวแต่เช้า นั้น นอกจาก จะได้สูดอากาศสดชื่นแล้ว ยังได้เห็นวิถีชีวิตชาวเมืองอีกด้วยครับ เช้านี้ผมเองคงต้องขอลาไปก่อนนะครับ ไปหาอะไรลงท้องอีกรอบก่อน เริ่มหิวแล้วหละ สวัสดีครับ
เดินเที่ยวยามเช้าไม่ม ีรถขวักไขว่สบายใจดีจัง