เยือนดินแดน 2 ทวีป และ อดีตอาณาจักรออตโตมันอันยิ่งใหญ่… เที่ยวครบแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ พร้อมชมมรดกโลกอีกหลายแห่ง… แถม เที่ยวที่ อียิปต์ พร้อมที่พัก 1 คืน… ทานอาหารซีฟู้ด ร้าน Dolphin Restaurant ณ หมู่บ้านชาวประมง ที่โด่งดังที่สุดในตุรกี… ชม Belly Dance (ระบำหน้าท้อง) ที่Cave Rock Restaurant แบบ Original
ที่ คัปปาโดเจีย และ หาชมได้ยากไม่มีชมทั่วไป
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ 22.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น4 พบกันที่เคาน์เตอร์เช็คอิน อาคารผู้โดยสาร สายการบิน อียิปต์แอร์ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
วันที่สอง ไคโร-อิสตันบูล
00.45 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูลหรือ ในอดีตกรุงคอนสแตนติโนเปิลแห่งสมัยจักรวรรดิไบเซนไทน์ ออกเดินทางโดย สายการบิน อียิปต์แอร์ เที่ยวบินที่ MS961 06.00 น. เดินทางถึงสนามบิน ไคโร (แวะเปลี่ยนเครื่อง) 10.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน อียิปต์แอร์ เที่ยวบินที่ MS737 13.00 น. เดินทางถึงสนามบิน นานาชาติ อตาเติร์ก กรุงอิสตันบูล หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้า เมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด (SULTANAHMED COMPLEX) มีชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน เดิมเป็นลานแข่งรถม้าและศูนย์กลางเมืองในยุคไบแซนไทน์ ปัจจุบันมีอนุสาวรีย์เหลือ 3 ชิ้น คือ เสาสีเหลี่ยมยอดแหลมแห่งกษัตริย์เธโอโดเซียส THEODOSIUS I OBELISK เสาบรอนซ์รูปงูเกี่ยวกระหวัด BRONZE SERPENTINE COLUMN และเสาคอนสแตนติน COLUMN OF CONSTANTINE นำชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาหเม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี จากนั้นชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย(Saint Sophia) หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ พระเจ้าจักรพรรดิ์คอนสแตนตินเป็นผู้สร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายเผาเสียวอดวายหลายครั้งเพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์ กับศาสนาอิสลาม จวบจนถึงรัชสมัยของพระเจ้าจัสตินเนียน มีอำนาจเหนือตุรกี จึงได้สร้างโบสถ์เซนต์โซเฟียขึ้นใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุดได้ พยายามหา สิ่งของมีค่าต่างๆ มาประดับไว้มากมาย สร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬาร ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัย ของจักรพรรดิจัสตินเนียน ถึงสมัยพระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกี และเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามจึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็น สุเหร่าของชาวอิสลาม จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังทอปกาปิ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับ ของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมัน ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปิกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่า อาทิ เพชร 96 กะรัต, กริชทองประดับมรกต, เครื่องลายครามจากจีน, หยก,มรกต, ทับทิม และ เครื่องทรงของสุลต่าน ฯลฯ เดินทางสู่ ตลาดในร่ม (KAPALI CARSISI หรือ COVERED BAZAAR) หรือ แกรนด์บาซาร์ (GRAND BAZAAR) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ที่ภัตตาคาร นำทุกท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก
วันที่สาม อิสตันบูล –- ชานัคคาเล่ -Ayvalik
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านลงเรือเฟอร์รี่ สู่เมืองซานัคคาเล่ ตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่าและติดกับทะเลอีเจียน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยว เพราะว่ามีซากโบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมันหลายแห่ง เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย ออกเดินทางสู่เมือง Ayvalik ชมความงดงามของเส้นทาง ระหว่างทางผ่านนำท่านชม ม้าไม้แห่งกรุงทรอย อันโด่งดัง ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธยุทโธปกรณ์อันชาญฉลาดในสมัยนั้นและเป็นสาเหตุให้กรุงทรอยแตกพร้อมชมความงดงาม ของเส้นทางเลียบชายทะเล ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่เมือง Ayvalik ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Ayvalik Mare Hotel หรือเทียบเท่า /รับประทานอาหารค่ำ
วันที่สี่ Ayvalik– เพอร์กามัม – คูซาดาซี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังเมืองเพอร์กามัม (Pergamum) ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ซึ่งเป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวก เฮเลนนิสติก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ วิหารอะโครโปลิส ซึ่งเป็นที่ขนานนามถึงประหนึ่งดังดินในสรวงสวรรค์ และต่อจากนั้นไปข้างใน จะเป็นบริเวณวิหารเทพเจ้าซุส หรือ เซอุส ปัจจุบันนี้เหลือแต่ส่วนฐานเท่านั้น แท่นบูชาถูกนำไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์เพอร์กามัมที่กรุงเบอร์ลิน เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นนำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ คูซาดาซี ระหว่างทางผ่านเมือง อิซเมียร์ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับทะเลอีเจียน ทางฝั่งตะวันตกของตุรกี เป็นเมืองสำคัญทางการค้าอันดับสองและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของตุรกี ซึ่งในอดีตเมืองนี้มักถูกมหาอำนาจยุคโบราณยึดครองมานาน ในอดีตพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช (ALEXANDER THE GREAT) ได้เคยนำกองทัพกรีกอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ขึ้นฝั่งที่เมืองนี้ ..นำท่านชมรอบ ๆ เมืองท่าอิซเมียร์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ คูซาดาซี แวะพักให้ทุกท่านได้เลือกซื้อ TURKISH DELIGHT ขนมหวานที่โด่งดังที่สุดในตุรกีซึ่งถูกกล่าวขานว่าอร่อยที่สุด ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม BATIHAN HOTEL หรือเทียบเท่า/ รับประทานอาหารค่ำ
วันที่ห้า คูซาดาซี– ปามุคคาเล่
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก จากนั้นนำท่านเข้าชม House of Virgin Mary บ้านของพระแม่มารี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่ และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ จากนั้นนำท่านชมวิหารเทพีอาร์มีทีส 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ ที่ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตได้ เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร บ่าย นำท่านเดินทางไปยัง เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดิน ผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผา ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้น และผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะ ขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมากคัปปาโดเจีย นำท่านชมปราสาทปุยฝ้าย (ปามุคคาเล่) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน ที่ซึ่งในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่า น้ำพุร้อนดังกล่าว รักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมือง ฮีเยราโพลิส ล้อมรอบ ท่านจะได้สัมผัสเมืองโบราณอีกแห่งหนึ่งซึ่งสร้างขึ้นในสมัยโรมัน ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม RICH MOND HOTEL หรือเทียบเท่า พร้อมรับประทานอาหารค่ำ
วันที่หก ปามุคคาเล่ย์-คอนย่า-คัปปาโดเจีย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เดินทางต่อไปยังเมือง คอนย่า ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลาง ที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทาง เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร บ่าย นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) ซึ่งเล่ากันว่าก่อตั้งขึ้นในราวปี ค.ศ. 1231 โดย เมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูมี่ ผู้วิเศษในศาสนาอิสลามซึ่งกำเนิด ในอัฟกานิสถาน เดินทางมายังเมืองคอนย่าตามคำเชิญของสุลต่านเซลจูค เพื่อเขียนบทกวีลึกลับเป็นภาษาเปอร์เซีย และได้เสียชีวิตลงในปี 1273 ค่ำ จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม PERI HOTEL หรือเทียบเท่า / รับประทานอาหารค่ำ หลังอาหารนำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง” ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี แบบตันฉบับที่หาชมได้ยาก
วันที่เจ็ด คัปปาโดเจีย-แองการ่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชมเมืองคัปปาโดเจีย เมืองที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ชื่นชมกับการเดินทางที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เกิดจากภูเขาไฟที่ไหลออกปกคลุมไปทั่วพื้นที่ และเมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน ได้เป็นตัวแปรที่ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปต่างๆที่งดงาม จากนั้นเดินทางสู่เกอเรเม่ นำท่านเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ จากนั้นนำท่านแวะชมโรงงานทอพรม โรงงานเซรามิค และโรงงานเครื่องหนังชั้นนำของประเทศตุรกี อิสระกับการเลือกซื้อสินค้า และของที่ระลึก เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นำท่านลงไปชมนครใต้ดิน (Underground City of Derinkuyu or Kaymakli) ซึ่งเป็นที่หลบซ่อนตัวจากการรุกรานของข้าศึก พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศและสภาพชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่เมือง แองการ่า เมืองหลวงแห่งดินแดนอนาโตเลียประเทศตุรกี ค่ำ นำทุกท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Buyuk Anadolu Hotel หรือเทียบเท่า รับประทานอาหารค่ำ
วันที่แปด แองการ่า-อิสตันบลู
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก เดินทางสู่เมืองอิสตันบูล มหานคร 2 ทวีประหว่างเอเชียและยุโรป ระหว่างทางให้ท่าน เพลิดเพลินกับบรรยากาศ ของสองทางอันตามอัธยาศัย เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน แบบ Seafood ณ ภัตตาคาร บ่าย นำท่านล่องเรือ ชม ช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea Of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้าง ตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรป และสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้วช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะ มีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจะกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่า กรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อนเลย ทั้งที่เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี่เอง ในปีค.ศ.1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัส ซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรป สะดวกมากขึ้น นำท่านเข้าชม โดลมาบาเช่ (Dolmabahce Palace) อันเป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึง ความเจริญอย่างสูงสุด ทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมันซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไป อย่างกว้างขวาง มีศักยภาพ ทางการทหารทั้งทัพบกและทัพเรือ อันเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทุกทวีปตั้งแต่ตอนเหนือของทวีปอัฟริกาจนถึงตอนใต้ของอิตาลี และทางด้านยุโรป ตะวันออกจรดกรุงเวียนนา พระราชวังแห่งนี้สร้างโดยสุลต่านอับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ป ี เพราะ ความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่า จะเป็นศิลปะวัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหารล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น รวมทั้งพระราชวังแห่งนี้ซึ่งออกแบบโดย สถาปนิกคู่ใจชาว อาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและ ตะวันออก ที่ได้รับการตกแต่ง อย่างสวยงาม และไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองใดๆ ทั้งสิ้น ภายนอกประกอบด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวัง ซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็กๆ ที่ช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องหับต่างๆ และฮาเร็มตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรงแก้วเจียระไน และโคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน นาฬิกาทุกเรือนของ ที่นี่จะชี้อเวลา 09.05 น. เป็นนิจนิรันดร์ เพื่อระลึกถึงเวลาของการจากไปเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1938 ของเคมาล อตา เติร์ก (Kamal Ataturk) วีรบุรุษของชาติผู้บดขยี้กองทัพอังกฤษที่กาลิโปลี ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง นำท่านอิสระกับการเลือกซื้อของฝากที่ ตลาดสไปซ์ มาร์เกต (SPICE MARKET) หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยาว์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกีอย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย 18.00 น. นำทุกท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานเมืองอิสตันบูล 20.00 น. ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล โดยสายการบิน อียิปต์แอร์ เที่ยวบินที่ MS 736 21.10 น เดินทางถึงท่าอากาศยาน กรุงไคโรหลักจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วนำ ทุกท่านเดินทางสู่เมืองไคโร(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) หลังจากนั้นนำทุกท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก OASIS HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่เก้า ไคโร
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก นำคณะเดินทางสู่ เมืองกีซ่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไคโรนักเพื่อชม “มหาปีรามิด” หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 3 พระองค์ ซึ่งองค์ฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณสร้างขึ้นเพื่อฝังพระศพ ของพระองค์เอง นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลก ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 30 ปี และกำลังแรงงานกว่าแสนคน ตัดจากแท่งหิน ขนาดใหญ่มาก หินแต่ละก้อนวางชิดติดกันแบบแนบสนิทมาก แม้แต่กระดาษก็สอดไม่ผ่านชมตัว “สฟิงซ์” ที่แกะสลักจากเนินหินธรรมชาติ มีส่วนหัวเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์ และลำตัวเป็นสิงโต (หากสนใจขี่อูฐ กรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์ ราคาประมาณ $10-15 เหรียญต่อท่านต่อหนึ่งตัว) เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น หลังจากนั้นแวะชมศูนย์กลางการทำ“กระดาษปาปีรุส”ซึ่งเป็นกระดาษชนิดแรกของโลกทำจากต้นกก(Papyrus) ใช้บันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้าและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในสมัยอียิปต์โบราณ พร้อมกับแวะชม โรงงานผลิตหัวน้ำหอม ซึ่งกล่าวกันว่าการทำน้ำหอมแบบนี้สืบทอดมาตั้งแต่สมัยพระนางคลีโอพัตรา ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิดหัวน้ำหอมขนาดใหญ่ให้กับยี่ห้อแบรนด์เนมดัง ๆหลายยี่ห้ออีกด้วย เย็น อิสระเลือกซื้อสิ้นค้าพื้นเมืองมากมายที่ “ตลาดข่านเอลคาลีลี” ตลาดสำคัญทางการค้าขายของพื้นเมืองและแหล่งสินค้าที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงไคโร ท่านสามารถเลือกซื้อ ของพื้นเมืองสวยๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำหอมที่ทำด้วยมือ สินค้าต่างๆ เครื่องทองรูปพรรณและเพชรพลอย ลวดลายแบบอาหรับ พรม และของที่ระลึกแบบพื้นเมือง ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 19.30 น. นำทุกท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน กรุง ไคโร 22.00 น. เดินทางออกจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยสายการบิน อียิปต์แอร์ เที่ยวบินที่ MS 958
วันที่สิบ กรุงเทพฯ
11.55 น. เดินทางถึง กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ…..