ทัวร์จีน ปักกิ่ง 5 วัน 4 คืน

จัตุรัสเทียนอันเหมิน – พระราชวังต้องห้ามกู้กง – วัดลามะ – ศูนย์วิจัยทางการ แพทย์แผนโบราณ – กายกรรมปักกิ่ง – พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน – โรงงานผลิตผ้าไหม – ไข่มุกน้ำจืด – ถนนหวังฟูจิ่ง – กำแพงเมืองจีน – หยก –
วันแรก กรุงเทพฯ – สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินใหม่กรุงปักกิ่ง 16.00 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 บริเวณ แถว U สายการบินแอร์ไชน่า (CA) โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกแก่ท่านก่อนออกเดินทาง 18.20 น. บินลัดฟ้าไปยังกรุงปักกิ่ง โดยสายการบินแอร์ไชน่าเที่ยวบินที่ CA960 (บริการอาหารเย็นบนเครื่อง) 23.30 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติปักกิ่ง ชมสนามบินใหม่ที่เปิดให้บริการเพื่อต้อนรับโอลิมปิก 2008 มีขนาดกว่า 1 ล้านตารางเมตรและใหญ่กว่าแพนตากอนของสหรัฐอเมริกา อาคารของสนามบินนานาชาติปักกิ่ง ถูกแบ่งออกเป็น 2 ข้าง ทอดตัวจากทิศใต้ไปสู่ทิศตะวันออกเพื่อช่วยลดไอร้อนจากแสงอาทิตย์ แต่ติดสกายไลท์ให้แสงแดดส่องเข้ามาถึงและใช้นวัตกรรมสมัยใหม่ที่ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนภายในตัวอาคาร

หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เข้าสู่ที่พักในย่านช้อปปิ้ง ณ Holiday Inn Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่สอง จัตุรัสเทียนอันเหมิน – พระราชวังต้องห้ามกู้กง – วัดลามะ – ศูนย์วิจัยทางการแพทย์แผนโบราณ

– กายกรรมปักกิ่ง

เช้า อาหารเช้าแบบชุด หรือบุฟเฟต์ ที่ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นพาชมศูนย์รวมชาวจีน “จัตุรัสเทียนอันเหมิน” จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก สัญลักษณ์ของประเทศจีนยุคใหม่ สถานที่จัดงานพิธีเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ บันทึกภาพเพื่อเป็นที่ระลึกกับอนุสาวรีย์วีรชน ศาลาประชาคม และ หอระลึกประธานเหมาเจอตุง จากนั้นผ่านประตูเข้าสู่นครโบราณหรือ “พระราชวังต้องห้ามกู้กง” สถานที่ว่าราชการและที่ประทับของ จักรพรรดิ์ 24 พระองค์ ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ชมโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นบนพื้นที่ 720,000 ตารางเมตร ชมหมู่อาคารเครื่องไม้ที่ประกอบด้วยห้องหับต่างๆถึง 9,999 ห้อง ชมพระตำหนักว่าราชการ พระตำหนักชั้นใน ห้องบรรทมของจักรพรรดิ์ และห้องว่าราชการหลังมู่ลี่ไม้ไผ่ ของพระนางซูสีไทเฮา ผ่านชม “โรงละครแห่งชาติปักกิ่ง หรือตึกไข่” ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสเทียนอันเหมิน ล้อมรอบด้วยทะเลสาบเทียม โครงสร้างภายนอกประกอบขึ้นจากกระจกผสมไทเทเนียม ภายในโรงละคร แห่งชาติแห่งนี้แบ่งพื้นที่เป็นโรงโอเปร่า, คอนเสิร์ตฮอลล์ และโรงภาพยนต์ พื้นผิวของผนังที่กึ่งโปร่งแสงจะทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาในตอนกลางคืนสามารถมองเห็นการแสดงวับๆแวมๆ ด้านใน ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ เที่ยง อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย จากนั้นเข้าชม “วัดลามะ (ยงเหอกง)” วัดใหญ่ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงในกรุงปักกิ่ง สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1694 แต่เดิมเคย เป็นตำหนักที่ประทับของจักรพรรดิหย่งเจิ้น หรือองค์ชายสี่ ผู้เป็นพระราชบิดาของจักรพรรดิเฉียนหลง แห่งราชวงศ์ชิง ต่อมาตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาที่นี่ได้กลายป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกาย มหายานและศิลปแบบธิเบต นมัสการพระพุทธรูปอารยเมตไตรย์ที่งดงามและสูงถึง 23 เมตร โดยเชื่อกันว่าเป็นงานแกะสลักจากไม้จันทน์องค์ใหญ่ที่สุดในโลกและได้ถูกบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊ค ประดิษฐานอยู่ภายในศาลาหมื่นสุข “ว่านฟู่เก๋อ” จากนั้นพาท่านผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยการนวดฝ่าเท้า โดยการแช่เท้าด้วยยาสมุนไพรจีนที่ “ศูนย์วิจัยทางการแพทย์แผนโบราณ” พร้อมรับฟังเรื่องราวเกี่ยวกับ การแพทย์โบราณตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การส่งเสริมการใช้สมุนไพรจีนที่มีมานานนับพันปี และรับฟังการวินิจฉัยโรค โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารค่ำตื่นตาตื่นใจกับ “กายกรรมปักกิ่ง”

สุดยอดกายกรรมที่น่าประทับใจและหาดูได้ยาก ได้เวลาอันสมควร กลับเข้าสู่ที่พัก

วันที่สาม พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน – โรงงานผลิตผ้าไหม – ผ่านชมสนามกีฬาโอลิมปิค 2008

– ไข่มุกน้ำจืด – ชิมชา – ถนนหวังฟูจิ่ง

เช้า อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ที่ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นชม “พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน” อุทยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 800 ปีก่อน ชมทะเลสาบคุนหมิงที่ขุดขึ้นด้วยแรงงานคนล้วน ชมที่ประทับของพระนางซูสีไทเฮาและจักรพรรดิกวางสู ชมระเบียงกตัญญู และเรือหินอ่อน แวะชม “โรงงานผลิตผ้าไหม” ผ้าไหมจีนมีชื่อเสียงทางการผลิตและส่งออกของโลก เพราะจีนเป็นประเทศแรก ที่รู้จักการเลี้ยงไหมและพัฒนาคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ท่านจะได้ชมวิธีการสาวเส้นไหม ออกมาเป็นเส้นใยเส้นเล็กๆ ซึ่งมีความเหนียว และเป็นมันวาวสวยงาม เหมาะต่อการนำไปทอเป็นผืนผ้าพันธุ์ไหม ทั้งแบบใช้เครื่องจักรและแรงงานคน ชมการดึงใยไหมรังแฝด เพื่อมาทำไส้นวมผ้าห่มไหม จึงเหมาะกับ การซื้อเป็นทั้งของฝากและของใช้เอง เที่ยง อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย ผ่านชม “สระว่ายน้ำแห่งชาติโอลิมปิก” สร้างขึ้นโดยมีรูปลักษณ์คล้ายกับ “ก้อนน้ำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่” ได้รับการออกแบบโดยใช้วัสดุเทปลอนทำเป็นโครงร่างเน้นใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้ดูเหมือนน้ำที่สุด ใช้เทคโนโลยีที่สามารถทำให้กำแพงอาคารดูเหมือนฟองน้ำที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและยังสามารถต้านทาน กันแรงสั่นสะเทือนอันเกิดจากแผ่นดินไหวได้ จากนั้นผ่านชม “สนามกีฬารังนกโอลิมปิก 2008” ภายในสนามกีฬา โครงสร้าง 91,000 ที่นั่ง ได้ใช้จัดพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันปักกิ่งโอลิมปิก 2008 มีลักษณะภายนอกคล้ายกับ ”รังนก” ที่มีโครงตาข่ายเหล็กสีเทาๆเหมือนกิ่งไม้ ห่อหุ้มเพดานและผนังอาคารที่ทำด้วยวัสดุโปร่งใส จากนั้นพาชมธุรกิจ “ไข่มุกน้ำจืด” ที่เพาะเลี้ยงในทะเลสาบ ปัจจุบันประเทศจีนสามารถผลิตเพื่อส่งออกไปขายทั่วโลกได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 199,500 กิโลกรัม นับว่าเป็นประเทศที่ผลิตไข่มุกน้ำจืดรายใหญ่ที่สุดในเวลานี้ ให้ท่านได้มีโอกาสเลือกซื้อไข่มุก ครีมบำรุงผิวไข่มุกธรรมชาติที่เหมาะกับทุกสภาพผิว เพื่อบำรุงผิวหน้าและกายให้เปล่งปลั่งและขาวใส อย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นพาชิมชานานาชนิด ชาถือว่าเป็น Healthy drink หรือ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เพราะบรรดานักวิจัยค้นพบว่าในใบชานั้นประกอบไปด้วยสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ลดอัตราการเสี่ยงของอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำลายในเซลล์ ช่วยกระตุ้นให้ระบบประสาทและร่างกายสามารถ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ช่วยขยายขนาดหลอดเลือด และป้องกันโรคหัวใจตีบตัน ช่วยแก้กระหายและช่วยในการย่อยอาหาร ให้ท่านได้ลองเลือกชาที่เหมาะกับตัวเอง เช่นชาอวู่หลงเหมาะ กับผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้แรง หรือ ชอบทานเนื้อสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ชามะลิเหมาะกับผู้ที่ทำงานแบบใช้สมอง ต้องซีเรียสเครียดทั้งวัน หรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องอ่านหนังสือเรียนจนดึกดื่น ชาดอกไม้เหมาะกับผู้ที่ต้องนั่งทำงานทั้งวันไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนกายไปไหนและยังไม่ชอบออกกำลังกายด้วย ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร มื้อพิเศษ ชวนชิมเป็ดปักกิ่งต้นตำรับ หลังอาหารค่ำให้ท่านได้เดินย่อยอาหาร และเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่ “ถนนหวังฟูจิ่ง” ถนนคนเดินในช่วงค่ำที่คึกคักที่สุดของปักกิ่ง แหล่งรวมสินค้านานาชนิดและมีห้างสรรพสินค้ามากมาย ชมบรรยากาศยามราตรีของเมืองปักกิ่งที่ประดับประดา

ด้วยแสงไฟที่สวยงาม ได้เวลาอันสมควร กลับเข้าสู่ที่พัก

วันที่สี่ กำแพงเมืองจีน – หยก – พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง – บัวหิมะ – ตลาดรัสเซีย

เช้า อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ที่ห้องอาหารของโรงแรม พาชมอัญมณีที่ประเทศจีนยกย่องว่ามีค่าอย่างล้ำเลิศ ยิ่งกว่าทองและเพชรนั่นก็คือ “หยก” โดยจะนำมาใช้ในพิธีการทางศาสนาและบูชาเทพเจ้าหลายพันปีมาแล้ว ชาวจีนมีความเชื่อว่า “หยก” เป็นอัญมณีล้ำค่า เป็นสิริมงคลแก่ ผู้ที่ได้มาครอบครอง ทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ส่งเสริมให้เกิดความเจริญก้าวหน้า มั่งคั่ง โชคดี อายุยืนยาว ให้ท่านได้เลือกซื้อ กำไลหยก แหวนหยก หรือ เผ่เย้า ซึ่งเป็นเครื่องประดับนำโชค จากนั้นพาท่านไปวัดใจกับการพิชิตความยิ่งใหญ่ของ “กำแพงเมืองจีน” (ด่านฉุ่ยกวน) ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกและเป็นสัญลักษณ์ที่มีความโดดเด่น ของประเทศจีน มีความเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ซึ่งสร้างขึ้นตามคำบัญชาของจักรพรรดิฉินซี แห่งราชวงศ์ฉิน ผู้รวมประเทศจีนเป็นปึกแผ่น เพื่อเป็นเครื่องกีดขวางของชนเผ่าผู้รุกรานจากทางเหนือ โดยพระองค์ได้บัญชา ให้ทำการเชื่อมกำแพงเมืองต่างๆเข้าด้วยกัน จนมีความยาวทั้งสิ้นถึงกว่า 12,700 ลี้ หรือประมาณ 6,350 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมอาณาบริเวณถึง 5 มณฑล 2 แคว้นการปกครองตลอดไปจนถึงทะเลทรายโกบี เมื่อท่านได้ทอดสายตาไปตามแนวกำแพงยักษ์แห่งนี้ จะรู้สึกได้ว่า “กำแพงหมื่นลี้” นี้ เปรียบเสมือนพญามังกรที่พาดพันไปตามยอดเขาด้วยท่วงท่าที่องอาจสง่างาม เที่ยง อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย เข้าชม “พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง” ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของจีนในยุคราชวงศ์หมิง ตั้งแต่จนยุคเริ่มต้นถึงสิ้นสุดราชวงศ์ โดยใช้หุ่นขี้ผึ้งเหมือนจริงกว่า 126 ชีวิต ซึ่งมีทั้งบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียง ในสาขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ ศิลปิน นักกีฬา ฯลฯ แสดงไว้ในห้องทั้งหมด 26 ห้อง ก่อนเดินทางกลับปักกิ่งแวะซื้อยาครอบจักวาลเป่าฟู่หลิง หรือ “บัวหิมะ” ของแท้ 100% ยาประจำบ้านที่มีชื่อเสียงและมีสรรพคุณมากมาย ช่วยรักษาแผลจากการโดนความร้อนเช่น น้ำร้อนลวก หรือ น้ำมัน ช่วยลดการอักเสบและเกิดหนองบองแผลที่โดนลวกได้ดี หรือจะทาเพื่อป้องกันผิวไหม้เสีย จากการตากแดดเป็นเวลานาน และช่วแก้ปัญหา สิว ฝ้า จุดด่างดำบนใบหน้าให้หน้าเนียนใส จากนั้นอิสระช้อปปิ้งที่ “ตลาดรัสเซีย” ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่อยู่บนถนนยาวกว่า 400 เมตร ตั้งอยู่ภายใน บริเวณที่ตั้งของสถานทูตนานาชาติ มีร้านค้ากว่า 300 ร้านตั้งเรียงรายไปตามสองข้างถนน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหม, เสื้อผ้า , งานฝีมือ , เครื่องหนัง , ของที่ระลึก ฯลฯ ในราคาขายปลีกและส่ง ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ได้เวลาอันสมควร กลับเข้าสู่ที่พัก

วันที่ห้า หอฟ้าเทียนถาน – สนามบินใหม่กรุงปักกิ่ง – สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ

เช้า อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ที่ห้องอาหารของโรงแรม คืนห้องพักตามเวลานัดหมาย พร้อมสัมภาระกระเป๋า เพื่อออกเดินทาง ชม “หอฟ้าเทียนถาน” ซึ่งก่อสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่สง่างาม มีความสูง 38 เมตร และมี เส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 30 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1420 ช่วงเวลาเดียวกันกับพระราชวังต้องห้าม และใช้เวลาในการสร้างถึง 14 ปี ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวง เทพยดาฟ้าดิน ของจักรพรรดิ ในสมัยโบราณ เพื่อคุ้มครองเหล่าปวงประชาชาวจีน ให้มีความสมบูรณ์ทางพืชพันธุ์ธัญญาหาร ได้เวลาอันสมควร พาท่านเดินทางไปสนามบิน 13.45 น. อำลากรุงปักกิ่ง เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ CA 959

18.05 น. เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพฯ