>ช่าวประชาสัมพันธ์

>>> กลับหน้าหลัก

วันที่ : 1 กุมภาพันธ์ 2550
ไทยย้ำความมั่นใจ ลดความตื่นตระหนก ผ่านสื่อและเอเย่นต์ของสิงคโปร์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ( ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี ) ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวรายสำคัญๆของสิงคโปร์ ประกอบด้วย บ. เอเชีย ยูโร ฮอลิเดย์ จก. บ.ชาน บราเตอร์ จก. บ.ฟาโมซ่า ฮอลิเดย์ ทัวร์ จก. บ.โฟดอล ทราเวล จก. บ.ซันนี่ ฮอลิเดย์ จก. บ.ทราเวล กอล์ฟ จก. บ.เวิลด์ไวลด์ ซันนี่ ทัวร์ จก. และ ไอเอสอี ทราเวล เป็นต้น โดยบริษัทดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการที่ทำตลาดไมซ์ ( MICE ) กลุ่ม leisure รวมทั้งกลุ่ม FIT ทั่วทุกภูมิภาคทั้งจากอาเซียน เอเชียแปซิฟิค และยุโรป ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอ็นด์ ที่ตรงกับเป้าหมายของประเทศไทย ทั้งนี้หลายบริษัทยังมีการเสนอขายประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ กระบี่- ตรัง- หาดใหญ่ เพชรบุรี กาญจนบุรี เชื่อมโยงถึงอีสาน ( อุดรธานี ) โดยเฉพาะบริษัทชาน บราเตอร์ เป็นบริษัทที่ให้การสนับสนุนด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทยมาเป็นเวลานาน นับเป็นผู้ริเริ่มในการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มเยาวชนอย่างเข้มแข็ง ทั้งยังเป็นผู้ผลักดันให้มีกิจกรรมโฮมสเตย์ในย่านชุมชนบ้านผาแตก ซึ่งบริหารจัดการโดยชุมชนกะเหรี่ยง อีกทั้งบริษัทฯ ยังเป็นที่รู้จักกันดีในการจัดเอ็ดดูเคชั่นนอลทัวร์สำหรับเยาวชน โดยมีการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยววัฒนธรรมระหว่างนักเรียนไทยและสิงคโปร์เสมอๆ ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนรายสำคัญๆของสิงคโปร์ อาทิ นิตยสารออโต้ เทรนด์ ซึ่งเป็นนิตยสารด้านยานยนต์ที่มีบทความส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเน้นเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางบกเข้าสู่ภาคใต้ของไทย นิตยสารสปอร์ต แอนด์ ทราเวล เป็นนิตยสารที่เน้นเรื่องกีฬา การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย หนังสือพิมพ์มายเปเปอร์ ที่พิมพ์แจกฟรีให้กับผู้ใช้บริการรถไฟใต้ดิน มียอดพิมพ์ถึง 180,000 ฉบับ โดยส่วนใหญ่มีผู้อ่านซึ่งครอบคลุมทั้งชาวจีน ชาวสิงคโปร์ และกลุ่ม Expats อื่นๆ ที่อยู่ในสิงคโปร์

ในโอกาสการพบปะดังกล่าว ร.ท.สุวิทย์ ได้ตอบข้อซักถามทั้งจากผู้ประกอบการและสื่อมวลชน ถึงสถานการณ์ในประเทศไทย โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องความปลอดภัย ซึ่ง ร.ท.สุวิทย์ได้กล่าวถึงมาตรการความร่วมมือในการตรวจตราระมัดระวังอย่างเข้มข้น ทั้งจากผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในภาครัฐและเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร ร่วมกันเป็นหูเป็นตา รวมถึงแนวทางการจัดตั้งศูนย์บริหารยามเกิดเหตุการณ์วิกฤต ที่จะจัดตั้งขึ้นโดยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ประกอบการและสื่อมวลชนได้นำไปบอกต่อๆกันเพื่อช่วยให้เกิดความเข้าใจและมั่นใจในประเทศไทยมากขึ้น

แหล่งข่าว : กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท.