ชวนชมลาว + หลี่ผี คอนพะเพ็ง ตาดฟาน + ทัวร์ลาว แพ็คเกจทัวร์ลาว ท่องเที่ยวลาว ลาวเหนือ ลาวกลาง ลาวใต้ เวียงจันทน์ หลวงพระบาง เชียงขวาง วังเวียง จำปาสัก ปากเซ รวมข้อมูลท่องเที่ยวลาว

จำปาสัก ชื่อนี้ หลายๆท่านคงเคย ได้ยินมาบ้าง บางท่านก็อาจร้องอ๋อ เพราะ ชื่อของดินแดน จำปาสัก นั้น มีความโด่งดัง ในด้านสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย ก่อนที่จะกล่าวถึง เรื่องต่อๆไป มาทำความรู้จักกันก่อนว่า นครจำปาสัก นั้น อยู่ที่ไหน

นครจำปาสักนั้น อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ครับ เพราะอยู่ลาว เพื่อนบ้านของเรา นั่นเอง ซึ่ง จะตั้งอยู่ในเขตตอนใต้ ของลาว นับเป็นดินแดนที่เคยมีรประวัติอันยาวนาน หลายครั้งที่ จำปาสักนั้น อยู่ในความปกครองของไทย และ หลายครั้งอยู่ในความปกครองของ ฝรั่งเศส ที่นี่เราสามารถท่องเที่ยว ไปตามที่ต่างๆได้อย่างมากมาย วันนี้ นายเกริกเกียรติ ก็จะพาทุกๆท่านไปท่องเที่ยว สถานที่ยอดฮิต ซึ่ง ถ้าใครไปเยือน จำปาสัก ก็ต้องไม่พลาด ไม่เช่นนั้น อาจกล่าวได้ว่า ยังไปไม่ถึง จำปาสัก ซึ่ง ที่เที่ยวก็มีทั้งทางธรรมชาติ และ โบราณสถานต่างๆ

ผมเดินทางมาถึงจำปาสัก ก็เริ่มเที่ยวกันเลย โดย วางแผนว่าจะไปเที่ยวตามที่ต่างๆ อย่าง แก่งหลี่ผี และ คอนพะเพ็ง รวมถึง น้ำตก ตาดฟาน และวัดภู ( วัดพู) ซึ่ง ที่วัดภูนี้ มีรายละเอียดคอนข้างมากครับ อาจต้องเอาไว้เล่าทีหลัง จุดแรกที่จะไปเที่ยวชม ก็คือแก่งหลี่ผี ซึ่ง อาจเรียก บริเวณนี้โดยรวมว่า มหานที สี่พันดอน ซึ่ง เพี้ยนมาจากคำว่า มหานทีสีทันดร เหตุเพราะมีเกาะแก่ง ใหญ่น้อย บนลำน้ำโขงในช่วง นี้ มากมาย เค้าว่ากันว่า มีมากถึง สี่พันดอน ด้วยกัน ในอดีต ฝรั่งเศสได้พยายามทำลายแก่ง หลี่ผีนี้ เพื่อการขนส่ง ไม้ตามลำน้ำ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะ เกาะแก่ง มีมากมายเหลือเกินครับ จุดที่ การเดินทางไปชม แก่งหลี่ผีนั้น เมื่อครั้งที่ผมหลายสิบปีที่แล้ว ยากลำบากมาก แต่ปัจจุบันนั้น สะดวกสบาย มากขึ้น ผมลงเรือ ของชาวบ้านที่มีบริการอยู่เพื่อไปขึ้นรถต่อ เข้าสู่หลี่ผี (ในอดีตต้องเดินหลายร้อยเมตรครับ)

ด้านท้ายน้ำ ก็สวยไม่เบา

ในช่วงนี้น้ำในโขงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ผมเองยังเกรงๆอยู่ว่า อาจไม่สวยเหมือที่ผ่านมา แต่ว่า เมื่อมาแล้วก็ต้องไปดูครับ เดินมาตามทาง เรื่อยๆ ได้ยินเสียงน้ำ กระทบหินดังมาก รอคอยต้อนรับอยู่ เป็นสัญญาณว่า วันนี้ หลี่ผี ยังคงสวยเหมือนวันวาน และโชคดีครับ ที่เราได้เห็นชาวบ้าน กำลังทำ หลี่ อยู่ด้วย หลี่ คือ ที่ดักปลา ทำจากการนำลำไม้ไผ่ ขึ้นโครง เป็นช่อง ซึ่ง การวางหลี่นั้น ค่อนข้างจะเสี่ยงอันตรายอยู่มาก เพราะต้องปีนลงไปตรงแก่งข้างล่าง แต่ชาวบ้านก็ทำกันจนเคยชิน ชื่อที่มาของแก่งหลี่ผีนั้น ก็มีความหมายถึง ที่ดักผี หรือ ศพนั่นเอง เพราะ เมื่อ บริเวณนี้น้ำเชี่ยวมาก จึงมักมี ศพผู้ ประสบอุบัตเหตุ หรือพลาดพลั้ง มาติดอยู่ เพราะ ที่เล่านี้ เป็นเรื่องในสมัยอดีตนะครับ ปัจจุบัน ได้มีการ ป้องกันอย่าง เรียบร้อยแล้ว ผมใช้เวลาถ่ายภาพค่อนข้างนาน เพราะ ตอนนั้นค่อนข้างย้อนแสง อยู่ไม่น้อย ทางด้านท้ายน้ำของแก่งก็มีความสวยงามไม่แพ้กันเพราะ เราจะเห็นสายน้ำลัดเลาะ ไปตาม ผา และ ซอกหิน สวยงามยิ่งนัก แต่จุดที่จะถ่ายภาพได้สวยๆนั้น ต้องระวังสักหน่อยครับเพราะ ต้องปีนป่ายอยู่บ้าง ที่นี่ เมื่อ ครั้งสมัยแผ่นดิน พระเจ้ากรุงธนบุรี ท่านเจ้าพระยาสุรสีห์ฯ ได้ขุดคลองอ้อม เขา หลี่ผี เพื่อ เดินทัพเรือ ( จุลศักราช 1140 หรือ พ.ศ. 2321 ) อีกด้วย แต่เมื่อฝรั่งเศสเข้าก็ใช้เป็นที่จับไม้ซุง

ชาวบ้านกำลัง ทำ หลี่ ดักปลากันอยู่

หลังจาก อิ่มเอมกับธรรมชาติ จนได้เวลาอันสมควร ก็เดินทางกลับ ซึ่ง ระหว่างทางจะเห็น หัวรถจักรไอน้ำ และ อู่ว่อมรถไฟเก่า สัยฝรั่งเศสที่ยังคงหลงเหลืออยู่ด้วย นอกจากนั้น ยังมีสะพาน รถไฟ ของฝรั่งเศส ซึ่ง แปรเปลี่ยนเป็นสะพานรถ ไปแล้ว อีกด้วย

คอนพะเพ็ง ไนแองการ่า แห่ง เอเซีย

สถานที่ต่อไปผมก็จะเดินทางไป ยัง แก่งคอนพะเพ็ง ซึ่ง ที่นี่ได้รับการ ขนานนามว่า ไนแองการ่าแห่ง เอเซียเลยทีเดียว เหตุเพราะ เป็นแก่งซึ่ง สายน้ำได้ตกลงมาเป็นหน้ากว้าง สวยงามยิ่งนัก การเดินทางมายังคอนพะเพ็ง นั้นสะดวก สะบายกว่า แก่ง หลี่ผีมากครับ เพราะ รถยนต์สามารถเดินทางมาจอดได้ถึงจุดชมวิว เลยครับ ความงามของ คอนพะเพ็ง นั้น สวยงามในทุกๆฤดูครับ เพราะ หน้าร้อน และ หนา้หนาว ก็จะเห็นแก่งหิน กับสายน้ำ ส่วนหน้าฝน นั้น เราจะเห็น สายน้ำ ที่ท่วมท้นมากมายไหลพรั่งพรู อลังการณ์ มากครับ ในลำโขงช่วงของ แก่งคอนพะเพ็ง นั้น ยังมีแก่ง อื่นๆในแนวเดียวกัน แต่การไปชมนั้น ยากลำบากกว่า จึงไม่นิยมครับ บริเวณริม น้ำโขง ของแก่งคอนพะเพ็งนั้น มี ต้นไม้ในวรรณคดีอยู่ หนึ่ง ต้น คือ ต้นมณีโตคร หรือ ต้น ชี้ตายปลายชี้เป็น ซึ่ง มีปรากฏ อยู่ในเรื่อง รามเกียรติ์ ด้วย ชาวลาวเชื่อกันว่า หากปลายต้นไม้ ชี้ไปทางทิศใด ประเทศนั้น ๆจะเจริญ ในบริเวณรอบๆ นั้น มีร้านขายของอยู่มากมาย สามารถ หาซื้อ กาแฟ โบราณ มานั่ง จิบ กินบรรยากาศได้อย่างดีอีกด้วย

เมื่อ ได้ยลความงามของ แก่ง ทั้งสองไปแล้ว ผมจึงเดินทางเข้าสู่ที่พัก เพื่อเอาแรงก่อน ในยามค่ำคืนที่นี่นับว่า ปิดร้านรวง กันเร็วพอควร เพราะ ประมาร 3 ทุ่มก็จะหารถ โดยสารไม่ได้แล้ว ต้องเดินเอาอย่างเดียว

เช้าวันใหม่ใน นครที่เต็มด้วย มนต์สเน่ห์ ช่วงนี้ อากาศค่อนข้างร้อน แต่ก็ยังดีทีวันนี้ ผมได้เดินทางไป ยัง น้ำตกตาดฟาน ซึ่ง จะอยู่บนเขา อากาศ บนนั้นจึงเย็นสบาย ระหว่าง ทางนั่ง รถ ประมาณ 30 กิโลเมตร ก็มองดูข้าง ทางที่เปลี่ยนไป ความเจริญมากขึ้น และ ทันสมัย มากขึ้น รถเริ่มพาผมขึ้น เนินเขาเตี้ยไป ไม่นานนัก ก็มาถึง ทางเข้า น้ำตกตาดฟาน ซึ่ง ตรงจุด ที่เราจะไปชมนั้น จะอยู่ฝั่งตรงข้าม ของตัวน้ำตก โดยเราต้องเดินเข้าไปในรีสอร์ท ตาดฟานรีสอร์ท ซึ่งเขาใจดีเปิดให้เรา สามารถ เข้าไปยืนชม ถ่ายภาพในที่ของเขาได้ เมื่อเดินไปถึงจุดชมวิว ก็จะพบกับตัว น้ำตก ตากฟาน ที่ไหล ตกลง จาก ผาสูง สายน้ำนั้น ไหลมาสอง สาย ตกลงสู่ เบื้อง ล่าง ด้วยความสูง ที่เหลือ ประมาณ หากเรายืนในบางจุด ยัง ไม่สามารถมองเห็นเบื้องล่าง ของ น้ำตกนี้ได้เลย ผมถ่ายภาพอยู่ สักพัก ก็มี นักท่องเที่ยวไทยเดินเข้ามาอีกคณะ หนึ่ง ต่างพากันชื่นชม และ กล่าว เป็นเสียงเดียวกันว่า สวยมาก

ตาดฟาน กับความสูง เหลือ คณานับ

ตามนิสัยของ คนไทย อย่างเราๆ เมื่อเข้าไป ขอ หรือ รบกวนใคร ก็ต้องมีความเกรงใจ แน่นอน ครับ เมื่อมาถึง ที่รีสอร์ทแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะอุดหนุน เขาสักหน่อย เอาเป็นว่า กาแฟร้อนๆ สักจอก ( แก้ว) แล้วกัน เพราะ ลาวยัง กาแฟแบบโบราณ กันนี่เอง ถึง ทำให้รสชาติ กาแฟ อร่อยมาก ยิ่งใส่นมข้น ด้วยยิ่งอร่อยครับ นั่ง อิ่ม กับบรรยากาศ ธรรมชาติ และ อร่อยกับ กาแฟรสเลิศ ที่จริงที่แถบๆ นี้มี ทั้งชากาแฟครับ เพราะ อากาศ เย็นทั้งปี

เมื่อได้เวลาแล้วผมจึงเดินทางกลับ สำหรับอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจ นั้น ก็คือ ปราสาทหินวัดภู ซึ่งผมขออนุญาตินำมาเล่าสู่ในโอกาสต่อไปนะครับ สำหรับวันนี้ ขอลาไปก่อนครับ

( ประวัติบางส่วนอ้างอิง จาก ” ครั้งหนึ่ง เมื่อนครจัมปาศักดิ์เป็นของเรา ” โดย ชัยเฉลิม นาคะประเวศ พ.ศ. 2506 )

>> ดูรายการนำเที่ยวของที่นี่ | จองที่พักที่นี่ | รูปสวยๆของที่นี่ | พยากรณ์ อากาศ ที่นี่ | เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย