กรุงเทพฯ – เสียมเรียบ – กรุงเทพฯ 3 วันทัวร์ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส

วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพฯ – เสียมเรียบ – พระโค – บากอง – นครธม – พนมบาแค็ง (L,D) 05.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง อาคาร 2 เคาน์เตอร์ 10 สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส 07.30 น. เหิรฟ้าสู่เสียมเรียบ เที่ยวบินที่ PG940 08.40 น. เดินทางถึงสนามบินเสียมเรียบ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากร จากนั้นพาท่านเที่ยวชมปราสาทพระโค (PRA KO) หรือ ปรเมศวร สร้างโดยพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 ปราสาทกลุ่มนี้เป็นปราสาท 6 หลัง ก่อด้วยอิฐฝนหน้าเรียบ สอด้วยไม้ยางอยู่บนฐานเดียวกัน ปราสาทองค์กลาง สร้างถวายพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ผู้เป็นปู่ ปราสาทองค์กลาง สร้างถวายพระมเหสีของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 พระนามว่าธรนินทรเทรวี ปราสาทองค์ซ้าย สร้างถวายพระบิดาของพระองค์ ซึ่งคือ พระเจ้าปิทวีณทรวรมัน ปราสาทองค์ด้านหลัง สร้างถวายพระราชมารดา ส่วนปราสาทที่เหลืออีกสองหลังสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นเพื่อถวายพระญาติที่ใกล้ชิด ชมจำหลักทับหลังลายปูนปั้น ศิลาทรายแบบนูนสูงสมัยชวา สังเกตได้จากมีลายหน้าสัตว์ผสมคล้ายหน้ายักษ์บนหน้าสิงห์ มีตากลมโปนแต่ไม่มีริมฝีปากล่าง คายท่อนพวงมาลัย จากนั้นชมปราสาทบากอง (BAKONG) สร้างในสมัยพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 สร้างหลังจากปราสาทพระโค 2-3 ปี ทางซ้ายมือของทางเข้า เป็น สะพานนาค 7 เศียร ไม่มีศิราภรณ์ประดับ ทอดตัวเสมอพื้นดิน เศียรนาคใหญ่ดูเทอะทะจากสะพานนาค เข้าไปถึงตัวปราสาทประมาณ 400 เมตร มีน้ำล้อมรอบ เป็นปราสาทไล่เรียงสูงขึ้นไป 5 ชั้น เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่ายน นำท่านเดินทางสู่เมืองนครธม (ANGKOR THOM) หรือเมืองยโศธรปุระ เป็นเมืองหลวงของขอมตั้งแต่ พ.ศ. 1450 – พ.ศ. 1800 ซึ่งเชื่อกันว่าสร้างในรัชสมัยพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ก่อนที่พบหลักฐานที่แท้จริงว่าสร้างในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เมืองแห่งนี้เป็นเมืองใหญ่ มีปราสาทหินมากมาย นักท่องเที่ยวจึงเรียกรวม ๆ กันว่าปราสาทหินนครธม ซึ่งความจริงแล้วปราสาทแห่งนี้มีชื่อเรียกเฉพาะกัน ก่อนเดินทางเข้าสู่เมืองนครธม ให้ท่านได้ชมคูเมือง กำแพงเมือง โคปุระหรือประตูทางเข้าซึ่งมีรูปหินแกะสลักรูปเทวดาและอสูร ฝั่งละ 58 องค์(ตน) รวม 2 ข้างเป็น 108 องค์(ตน) ซึ่งเขมรถือว่าเป็นเลขมงคล นำท่านเที่ยวชมปราสาทบายน (BAYON) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1200 รัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดยการนำหินมาวางซ้อน ๆ กัน แล้วขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง แข็งแรงเป็นพันปี ปราสาทแห่งนี้มีแต่ใบหน้าของคน แต่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นพระพักตร์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เพราะมีรอยยิ้มน้อยๆ ทั้ง 216 หน้า จากทั้งหมด 54 ปรางค์ รอยยิ้มนี้เรียกว่ารอยยิ้มแบบบายน คือ มีความเมตตาต่อมนุษย์ มีความหมายของพรหมวิหารสี่ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ชมปราสาทบาปวน ปราสาทพิมานอากาศ บัลลังก์ช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน จากนั้นนำท่านเดินทางขึ้นสู่ ปราสาทเขาพนมบาแค็ง (PHNOM BAKENG) ซึ่งปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ในสมัยพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 เป็นปราสาทบนเนินเขาที่สร้างด้วยหินทราย เดิมที่นี่เป็นศูนย์กลางเมือง บนเขาพนมบาแค็งนี้เป็นเทวสถานจากพื้นราบ บนยอดเขาเป็นปราสาทขึ้นไป 15 ชั้น ชั้นบนสุดมีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลางฐานหินทรายทั้ง 5 ชั้น และยังมีปราสาทย่อย ๆ อีก ณ ปราสาทแห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก จากนั้นพาท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก โรงแรมอัปสราอังกอร์หรือเทียบเท่า ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ครัวไทย เรสเตอรองก์ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก จากนั้นให้ท่านได้อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือเที่ยวชมเมืองเสียมเรียบยามค
่ำคืน

วันที่สองของการเดินทาง บันทายสรี – บันทายสำเหร่ – แปรรูป – ตาพรม – นครวัด (B,L,D)

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 08.00 น. พาท่านเดินทางเที่ยวชมปราสาทบันทายสรี (BANTEAY SREY) หรือชื่อเดิมว่า”อิศวรปุระ” ที่ปรากฎอยู่ในศิลาจารึก สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 1510 โดยคุรุยัชญวราหะ เสนาบดีในรัชสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมัน ปราสาทแห่งนี้มีทับหลังที่สมบูรณ์ที่สุด แม้จะเป็นปราสาทเก่าแก่ก่อนยุคนครวัดก็ตาม สร้างขึ้นด้วยหินทรายสีชมพูเนื้อละเอียด สลักลวดลวยสวยงาม ปราสาทเก่าแก่ก่อนยุคนครวัดก็ตาม จึงได้รับการยกย่องจากชาวฝรั่งเศสว่า “รัตนชาติศิลปะแห่งขอม” จากนั้นพาท่านชมปราสาทบันทายสำเหร่ (BANTEAY SAMREI) เทวสถานไวษณนิกาย สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 องค์ปราสาทคล้ายกับปราสาทหินพิมาย ชมเสาประดับผนังที่มีการแกะสลักลายเทพพนม ลักษณะเป็นบุคคลเล็ก ๆ ท่าร่ายรำแทรกอยู่บนก้าน ต่อดอกและมีลายใบไม้อยู่โดยรอบเสาประดับกรอบประตู ทำเป็นแปดเหลี่ยมมีวงแหวนเป็นช่วง ๆ เหนือและใต้วงแหวนจะเป็นลายใบไม้เล็ก ๆ ประดับอยู่ เดินทางเที่ยวชมปราสาทแปรรูป (PRE RUP) สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อถวายแก่พระราชมารดา ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่มาก ชมลายปูนปั้นของปราสาทที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และชมทับหลังที่ยังแกะสลักไม่เสร็จ และที่แห่งนี้ยังเป็นที่เผาพระบรมศพของพระเจ้าราเชนทรวรมัน เชิงตะกอนแห่งนี้มีลักษณะเหมือนเตียงสมัยใหม่ ซึ่งที่เผาพระศพนี้มีเครื่องปิดข้างบน เจาะอุโมงค์ลงไปด้านล่างเพื่อให้ควันไฟขึ้น ทำปล่องอยู่ข้างใต้ ซึ่งเชื่อมจากด้านล่างของเชิงตะกอน ต่อท่อขึ้นไปยังปราสาทอีกสองข้างทั้งด้านเหนือและด้านใต้ ให้ผ่านไม้จันทน์หอม เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่นเหม็นในการเผาพระศพ เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย ต่อจากนั้นเดินทางชมปราสาทตาพรหม (TA PROHM) ก่อสร้างใน ค.ศ. 1186 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเพื่อถวายแก่พระราชมารดา สร้างตามแบบเขมรในยุคสุดท้าย ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างซับซ้อนประดุจเขาวงกต ชมความยิ่งใหญ่ของพลังธรรมชาติเหนือพลังของมนุษย์ ต้นสะปงขนาดยักษ์กับรากไม้มหึมาที่โอบรัดรอบปราสาทไว้อย่างน่าอัศจรรย์ แมกไม้ร่มครึ้มและเสียงนกเจื้อยแจ้วคลออยู่ตลอดการเยี่ยมชม นำท่านเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ของนครวัด (ANGKOR WAT) ก่อสร้างครั้งแรกในศตวรรษที่ 12 (พ.ศ. 1650 – 1658) ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 สร้างขึ้นเพื่อถวายพระวิษณุโลก โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นเทวาลัยและสุสานเก็บพระศพของทุกพระองค์ ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานที่สุดเกือบ 37 ปี ชมภาพแกะสลักของกองทัพสยามหรือเสียมกุก ภาพสลักกวนเกษียรสมุทร ภาพจำหลักของนางอัปสรา รอบปราสาทที่มีมากกว่า1,635 นาง ซึ่งล้วนงดงามกว่านางอัปสราทุกปราสาท ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมให้ท่านชมนาฎศิลป์ของเขมรพร้อมชมการแสดงการร่ายรำของนางอัปสรา จากนั้นเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก

วันที่สามของการเดินทาง กระวาน – พระขรรค์ – นาคพัน – ศูนย์ศิลปาชีพ – ช้อปปิ้ง – กรุงเทพฯ (B,L)

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 08.00 น. นำท่านเดินทางเที่ยวชมปราสาทกระวาน (KRAVEN) สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าหรรษาวรมันที่ 1 ในปี ค.ศ. 921 ตามลัทธิศาสนาพราหมณ์ ให้ท่านได้ชมภาพจำหลักรูปพระนารายณ์ ตรีวิกรม (ย่างสามขุม)และพระนางลักษมี มเหสีของพระวิษณุที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุด เป็นภาพจำหลักที่เห็นได้ชัดว่าพระนางลักษมีถืออะไรในพระกรทั้ง 4 ข้าง จากนั้นให้ท่านได้ชมปราสาทพระขรรค์ (PREAH KHAN) สร้างในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ราว ค.ศ. 1191 ตามลัทธิศาสนาพุทธ จุดประสงค์ของการสร้างพระขรรค์นั้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระราชบิดา องค์ปราสาทใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 700 x 200 เมตร มีคำจารึกสั้นๆ ทำให้ปราสาทมีลักษณะเป็นวัดที่พึงระลึกถึงเหมือนป่าช้าโบราณมีเสาหิน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงเคยได้รับชัยชนะในสงคราม และปราสาทแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นที่ประทับชั่วคราวในระหว่างการก่อสร้างเมืองหลวงที่ถูกทำลายในปี ค.ศ. 1171 ชมปราสาทนาคพัน (NEAK PEAN) ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่แสดงให้เห็นถึงการชลประทานในสมัยก่อน เป็นปราสาทที่มีลักษณะแปลกแต่จัดเป็นสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์ที่สุดเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสระอโนดาต ซึ่งถือว่าเป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ในพุทธศาสนา ซึ่งในสมัยพุทธกาลเชื่อกันว่าน้ำจากสระอโนดาตเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถรักษาโรคให้หายได้ พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และพระอริยบุคคล ผู้คนทั่วไปต่างเคยมาสรงน้ำจากสระอโนดาต น้ำพุจะไหลผ่านท่อน้ำที่ทำเป็นรูปสิงห์ ช้าง ม้า วัว แต่ที่ปราสาทแห่งนี้ น้ำพุจะไหลผ่านท่อที่ทำเป็นรูปของมนุษย์แทนวัว เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย จากนั้นให้ท่านได้เยี่ยมชมงานศิลปหัตถกรรมที่ศูนย์ศิลปชีพ ชมขั้นตอนการแกะสลักรูปต่าง ๆ จากหินทราย จากนั้นเดินทางกลับสู่ตัวเมืองเสียมเรียบ ให้ท่านได้อิสระกับการช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ตลาดปซาจ๊ะ อาทิ ผ้าไหม เครื่องเงิน เป็นต้น สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ 20.00 น. เหิรฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ PG 947

21.00 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ